เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 เรียกร้องวานนี้ (16 ต.ค.) ให้มีการสืบสวนอย่างโปร่งใสกรณีนักข่าวชาวซาอุฯ จามาล คาช็อกกี (Jamal Khashoggi) หายสาบสูญและต้องสงสัยว่าอาจถูกฆาตกรรม ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกโรงปกป้องพันธมิตรริยาด ชี้ซาอุฯ ยังเป็น ‘ผู้บริสุทธิ์’ จนกว่าความจริงจะกระจ่าง
ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอพี ทรัมป์ ได้เปรียบเทียบเรื่องนี้กับกรณีที่ เบร็ตต์ คาวานอห์ นอมินีผู้พิพากษาศาลสูงสุด ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงหลายคน
“คดีนี้ก็อย่างที่เห็น คุณกลายเป็นคนผิดจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์” ทรัมป์ กล่าว “แต่ผมไม่ชอบเลย เราผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาพร้อมๆ กับผู้พิพากษาคาวานอห์ และเท่าที่ผมรู้เขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์มาโดยตลอด”
“ผมคิดว่าเราต้องหาคำตอบให้ได้เสียก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
คาช็อกกี เคยเป็นอดีตที่ปรึกษาของรัฐบาลซาอุฯ ก่อนจะอพยพไปสหรัฐฯ และวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ อย่างเผ็ดร้อนในฐานะสื่อมวลชน
เขาหายตัวไปเมื่อวันที่ 2 ต.ค. หลังจากเข้าไปที่สถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลเพื่อทำเรื่องขอสมรสกับแฟนสาวที่เป็นชาวตุรกี
การหายตัวไปของ คาช็อกกี ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับซาอุดีอาระเบียเริ่มตึงเครียด ท่ามกลางแรงกดดันจากสภาคองเกรสและสื่ออเมริกันที่ไม่ยอมให้เรื่องนี้ถูกปัดเข้าใต้พรมง่ายๆ
ทรัมป์ ได้ส่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ ไปเยือนริยาดเพื่อหารือโดยตรงกับบรรดาเจ้าซาอุฯ ขณะที่ตัวเขาเองได้พูดคุยกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุฯ เมื่อวานนี้ (16) และได้รับคำยืนยันว่ากำลังมีการสืบสวนเรื่องนี้อย่าง “เต็มรูปแบบ”
สำหรับสหรัฐฯ แล้ว ซาอุดีอาระเบียถือเป็นชาติพันธมิตรใกล้ชิดที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องปรามอิทธิพลอิหร่าน และยังเป็นลูกค้าอาวุธรายใหญ่ด้วย
ด้วยแรงเชียร์จาก เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยและที่ปรึกษาคนสนิท รัฐบาล ทรัมป์ จึงให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษกับการผูกสัมพันธ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ด ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ที่จะนำพาซาอุฯ เข้าสู่ยุคที่ทันสมัย
ทรัมป์ ขู่จะลงโทษสถานหนักหากพิสูจน์ได้ว่า คาช็อกกี ถูกฆ่าภายในสถานกงสุลซาอุฯ จริง แต่ก็ยังไม่วายปกป้องรัฐบาลซาอุฯ ด้วยการโบ้ยว่าอาจจะเป็นฝีมือพวก ‘ลิ่วล้อแหกคอก’ และปฏิเสธที่จะหยุดค้าอาวุธกับริยาด
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่อง คาช็อกกี และการที่รัฐบาลซาอุฯ ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม
“เราในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่ม G7 ซึ่งประกอบด้วยแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป ขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพสื่อ” ถ้อยแถลงจากกลุ่มรัฐมนตรี G7 ระบุ
“เราไม่สบายใจอย่างยิ่งกับการหายตัวไปของนักหนังสือพิมพ์อาวุโสชาวซาอุฯ จามาล คาช็อกกี”
เจ้าหน้าที่ตุรกีเชื่อว่า คาช็อกกี ถูกคนของรัฐบาลซาอุฯ สังหารภายในสถานกงสุล ซึ่งแรกๆ ฝ่ายซาอุฯ ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง และอ้างว่า คาช็อกกี ออกจากสถานกงสุลไปแล้ว แต่ต่อมาก็ยอมรับกลายๆ ว่ามี ‘พวกแหกคอก’ อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของเขา
“พวกที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักข่าวรายนี้จะต้องถูกนำตัวมารับผิด” กลุ่มรัฐมนตรี G7 ระบุ “เราขอสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างตุรกีและซาอุฯ และหวังว่าราชอาณาจักรซาอุฯ จะดำเนินการสอบสวนคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เชื่อถือได้ และโปร่งใส”