'ไต้หวัน'ซ้อมรบรับมือกับการถูก 'เรือบรรทุกเครื่องบินจีน' เข้าโจมตี

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Taiwan war game to mimic Chinese aircraft carrier attack
By Asia Times staff
15/10/2016

ไต้หวันจัดการซ้อมรบซึ่งมุ่งฝึกการป้องกันฐานทัพอากาศสำคัญๆ ตามแนวชายฝั่งด้านแปซิฟิกของตน โดยสมมุติสถานการณ์ว่าถูกโจมตีจากเรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ของจีน

ไต้หวันกำหนดจัดการซ้อมรบในวันอังคาร (16 ต.ค.) โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะจำลองสถานการณ์การถูกโจมตีจากเรือ “เหลียวหนิง” เรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียวที่สามารถออกปฏิบัติการได้ซึ่งจีนมีอยู่ในเวลานี้ ทั้งนี้กองทัพของไต้หวันยังได้ดำเนินการฝึกซ้อมอื่นๆ อีกหลายๆ อย่างที่มีความสอดคล้องเหมาะสมกับการซ้อมรบใหม่คราวนี้ด้วย

หนังสือพิมพ์ในไต้หวันพากันชี้ว่า การเอ็กเซอร์ไซส์ครั้งนี้จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ฉากทัศน์จำลองสถานการณ์ (scenario) ว่า ฝูงเครื่องบินขับไล่ของจีนจากเรือเหลียวหนิง จะเปิดฉากเข้าโจมตีหลายๆ ระลอกใส่บรรดาฐานทัพอากาศของไต้หวันซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งด้านแปซิฟิกของเกาะ

รายงานข่าวเหล่านี้ระบุว่า เรือรบ “ผ่านสือ” (Panshi) เรือเร็วสนับสนุนการสู้รบอเนกประสงค์ที่มีขนาด 20,859 ตัน และจัดเป็นเรือรบขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือไต้หวันในเวลานี้ จะเป็นผู้นำในการป้องกันขัดขวางการโจมตีจากเรือเหลียวหนิง ซึ่งจะมีทั้งการเข้าโจมตีทางอากาศ, การแทรกแซงเจาะทะลวงทางอิเล็กทรอนิกส์, และการส่งสัญญาณรบกวน โดยเป้าหมายหลักในการโจมตีอยู่ที่ฐานทัพอากาศเจียซาน (Chiashan Air Base) ณ ท่าอากาศยานฮวาเหลียน (Hualien Airport) ตลอดจนสถานที่ตั้งทางทหารแห่งสำคัญๆ อื่นๆ ตามแนวชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน

กลุ่มอาคารใต้ดินและโรงเก็บเครื่องบินขับไล่ซึ่งสร้างอยู่ใต้ดินของฐานทัพเจียซาน ได้รับการเสริมกำลังป้องกันเพิ่มเติมไปแล้ว ด้วยอาวุธประเภทปืนและอาวุธปล่อยซึ่งมุ่งป้องกันสกัดกั้นเฉพาะจุด

อาวุธเหล่านี้ ประกอบด้วยเรดาร์, ปืนใหญ่ยิงเร็วหลายลำกล้องแบบหมุน ซึ่งติดตั้งอยู่บนแท่นหมุนได้ (multiple-barrel rotary rapid-fire cannons placed on rotating gun mounts) , ตลอดจนระบบอาวุธปล่อยที่มีเรดาร์อินฟราเรดนำวิถีขณะกำลังจะพุ่งถึงเป้าหมาย (missile systems with infrared radar terminal guidance) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นเครื่องป้องกันสำคัญยิ่งในการต่อต้านภัยคุกคาม หากเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่ของฝ่ายจีนสามารถฝ่าทะลุผ่านเข้าสู่น่านฟ้าของไต้หวัน

ในการฝึกซ้อมครั้งนี้ กรมการบินทหารบกและกองบัญชาการรบพิเศษของไต้หวันจะจัดส่งอากาศยานปีกหมุนมาทำหน้าที่เป็นกองกำลังข้าศึกสมมุติ

ปีนี้ไต้หวันได้จัดการฝึกและการซ้อมรบบ่อยครั้งชนิดที่ไม่เคยกระทำกันมาก่อนเลย นอกเหนือจากการซ้อมรบ “ฮั่นกวง เอ็กเซอร์ไซส์” (Han Kuang Exercise) ซึ่งเป็นการซ้อมรบมุ่งต่อต้านจีนขนาดใหญ่ประจำปีที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ตลอดจนการฝึกขนาดย่อมๆ ลงมาอีกหลายครั้งโดยมีทั้งการฝึกการลำเลียงขนส่งทางอากาศไปจนถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์

ในอีกด้านหนึ่ง คณะอัยการในเมืองเกาสง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะแห่งนี้ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณายื่นฟ้องร้องดำเนินคดีผู้ต้องสงสัยฝ่าฝืนความมั่นคงแห่งชาติ ด้วยการโจรกรรมข้อมูลลับซึ่งมีทั้งข้อมูลการติดต่อทางอีเมลและรายละเอียดต่างๆ ทางเทคนิคเกี่ยวกับสมรรถนะในการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ของเรือฟริเกตลำหนึ่งของกองทัพเรือไต้หวัน

ทางคณะผู้สอบสวนของคดีนี้ได้ตั้งคำถามฉกาจฉกรรจ์ขึ้นมาแล้วว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าเป็นเพียงช่างซ่อมไอทีระดับล่าง สามารถเข้าถึงห้องยุทธการที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงลิ่ว ของเรือเฉิงเต๋อ (Cheng De) เรือฟรีเกตชั้นคังติ้ง (Kang Ding-class) ลำนี้ได้อย่างำร และพูดถึงเหตุการณ์คราวนี้ว่า เป็นเรื่องที่ “คิดไม่ถึง” ว่าจะเกิดขึ้นได้

ข่าวระบุว่า ผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่า เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว ได้ถ่ายโอนข้อมูลลับจากอุปกรณ์ฮาร์ดไดรฟ์ทางทหาร เข้าไปในยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ความจุ 50 กิกะไบต์ตัวหนึ่ง อันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

เวลานี้คณะอัยการยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดลงไปว่า ผู้ต้องสงสัยได้จัดส่งข้อมูลข่าวสารที่โจรกรรมมานี้ ไปให้แก่พวกสปายสายลับจีนหรือไม่

ขณะที่โฆษกกองทัพเรือไต้หวันผู้หนึ่งยืนยันว่า การสอบสวนที่กระทำเป็นการภายในแสดงให้เห็นว่าระบบต่างๆ ของเรือฟริเกตลำดังกล่าวไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย และไม่พบข้อมูลข่าวสารที่อ่อนไหวใดๆ ในยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ดังกล่าวด้วย