นายกฯ ออสซี่จ่อตามก้น ‘ทรัมป์’ ย้ายสถานทูตไป ‘เยรูซาเลม’

เอเอฟพี - ผู้นำออสเตรเลียยอมรับวันนี้ (16 ต.ค.) ว่ากำลังพิจารณาย้ายสถานทูตประจำอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม ตามอย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงยืนยันว่า รัฐบาลของตน “เปิดกว้าง” สำหรับข้อเสนอให้รับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงยิว และย้ายสถานทูตออสเตรเลียไปยังนครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ซึ่งถือเป็นการละทิ้งนโยบายที่ออสเตรเลียยึดถือมานานหลายสิบปี

“เรายังคงสนับสนุนทางออกแบบสองรัฐควบคู่ แต่พูดตรงๆ ว่ามันไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร และคนเราไม่ควรทำจะอะไรซ้ำๆ โดยหวังผลที่แตกต่าง” มอร์ริสัน กล่าว

ผู้นำออสซี่อ้างว่า ข้อเสนอรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลและย้ายสถานทูตนั้นเป็นเรื่อง “สมเหตุสมผล” และ “จูงใจ” ซึ่งรัฐบาลจะรับไว้พิจารณา

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลยอมรับว่าเคยพูดคุยกับ มอร์ริสัน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ออสเตรเลียจะย้ายที่ตั้งสถานทูตใหม่

“ท่านบอกกับผมว่ากำลังพิจารณารับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ และจะย้ายสถานทูตออสเตรเลียไปที่เยรูซาเลมด้วย ผมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง” เนทันยาฮู ทวีตข้อความ

ประกาศที่เรียกเสียงฮือฮานี้มีขึ้นแค่ไม่กี่วันก่อนจะถึงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ซิดนีย์ ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรเชื้อสายยิวอาศัยอยู่มาก และโพลล่าสุดพบว่าผู้สมัครของพรรคลิเบอรัลซึ่งเป็นอดีตทูตประจำอิสราเอลยังมีคะแนนตามหลังคู่แข่งอยู่

หากผู้สมัครของพรรคลิเบอรัลแพ้เลือกตั้งสนามนี้จะทำให้รัฐบาลมอร์ริสันเสียเสียงข้างมากในสภาที่เกินครึ่งมาเพียง 1 ที่นั่งทันที

“สกอตต์ มอร์ริสัน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อตำแหน่งไว้ เขาพร้อมจะพูดอะไรก็ได้ที่จะช่วยให้พรรคได้คะแนนเพิ่มมาอีกสัก 2-3 เสียง แม้ประเทศชาติจะเสียประโยชน์ก็ตาม” เพนนี หว่อง โฆษกหญิงฝ่ายนโยบายต่างประเทศของพรรคแรงงานฝ่ายค้าน ระบุ

มอร์ริสัน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแดนจิงโจ้หลังจากที่สมาชิกสายอนุรักษนิยมในพรรคลิเบอรัลพร้อมใจกันก่อกบฏโค่นอดีตนายกฯ สายกลาง มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ลงจากเก้าอี้เมื่อเดือน ส.ค.

เทิร์นบูลล์ นั้นประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายสถานทูตของทรัมป์ โดยมองว่าการทำเช่นนั้น “ไม่เป็นประโยชน์” ต่อกระบวนการสันติภาพ

มอร์ริสัน ยืนยันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากแรงบีบของสหรัฐฯ และไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเวนท์เวิร์ธของนครซิดนีย์ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์นี้ (20) ด้วย

“ผมตัดสินใจโดยไม่ได้อ้างอิงสหรัฐฯ เลยแม้แต่น้อย ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้กับประธานาธิบดีทรัมป์ หรือเจ้าหน้าที่คนใด”

ประชาคมโลกส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่า เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และมีมติร่วมกันว่าสถานะสุดท้ายของนครแห่งนี้จะต้องเกิดจากกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างชาวยิวและปาเลสไตน์เท่านั้น