xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: ‘ทรัมป์’ คอนเฟิร์มซัมมิต ‘คิม’ รอบสอง หลังสู้ศึกเลือกตั้งมิดเทอม 6 พ.ย.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันในสัปดาห์นี้ว่าจะจัดประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 กับผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือหลังผ่านพ้นศึกเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พ.ย. ขณะที่ผู้นำโสมแดงรับปากจะอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้าไปพิสูจน์ว่าศูนย์ทดสอบนิวเคลียร์และเครื่องยนต์จรวดแห่งสำคัญของประเทศถูกทำลายแล้วจริงหรือไม่

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางไปรณรงค์หาเสียงที่รัฐไอโอวา โดยยืนยันว่าการพบกันครั้งใหม่ระหว่างเขากับผู้นำ คิม จะมีขึ้นหลังศึกเลือกตั้งมิดเทอมในวันที่ 6 พ.ย. นี้ พร้อมคุยสำทับว่าการเจรจากับรัฐคอมมิวนิสต์โสมแดงนั้น “คืบหน้าไปอย่างไม่น่าเชื่อ”

ทรัมป์ ยังเอ่ยชื่นชมภารกิจของรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ ซึ่งเดินทางไปเยือนเปียงยางหนที่ 4 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าการพูดคุยระหว่าง พอมเพโอ กับ คิม เป็นไปอย่างชื่นมื่น

สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า ผู้นำ คิม มีความพึงพอใจที่การหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ผลอย่างยอดเยี่ยม พร้อมแสดงความขอบคุณ ทรัมป์ ที่พยายามปฏิบัติตามข้อตกลงในการประชุมซัมมิตครั้งแรกเมื่อเดือน มิ.ย. อย่างจริงใจ

พอมเพโอ ให้สัมภาษณ์สื่อที่ทำเนียบขาวเมื่อบ่ายวันอังคาร (8 ต.ค.) ว่า สหรัฐฯ เริ่มเห็นหนทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด นั่นคือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างสมบูรณ์แบบและตรวจสอบได้ แม้หนทางจะอีกยาวไกลและยังมีงานที่ต้องทำอีกมากก็ตาม

ทรัมป์ และ คิม เคยรับปากซึ่งกันและกันในการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่าจะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ ทว่าคำสัญญานี้กลับยังไม่เห็นผลในทางปฏิบัติเท่าที่ควร เนื่องจากวอชิงตันยืนกรานให้เปียงยางต้องเปิดเผยคลังอาวุธนิวเคลียร์และสถานที่ทดสอบทั้งหมดเสียก่อน รวมทั้งดำเนินการปลดอาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ อย่างไม่สามารถรื้อฟื้นกลับไปได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้นำสหรัฐฯ จะพอใจกับความสำเร็จเล็กน้อยที่เกิดขึ้น เขาย้ำว่าเกาหลีเหนือ “ไม่ได้ทดสอบจรวด ขีปนาวุธ หรือระเบิดนิวเคลียร์” แม้แต่ครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งถือเป็น “ความก้าวหน้าอย่างเหลือเชื่อ”

“ผมตกลงที่จะพบกับเขาอีกครั้ง เรามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับประธานคิม ผมชอบเขา และเขาก็ชอบผม” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ภายในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว

สำหรับสถานที่จัดการประชุมซัมมิตครั้งถัดไปนั้น ทรัมป์ ระบุว่ากำลังพิจารณาอยู่ 3-4 แห่ง แต่คงไม่เลือกจัดที่สิงคโปร์ซ้ำสอง และมีความเป็นไปได้ที่การประชุมคราวนี้จะเกิดขึ้น “บนแผ่นดินสหรัฐฯ เอง” หรือแม้กระทั่งในเกาหลีเหนือ

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้นำ คิม พร้อมที่จะเปิดสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ปุงกเย-รี (Punggye-ri) และศูนย์ทดสอบเครื่องยนต์จรวดโซแฮ (Sohae) ซึ่งเปียงยางอ้างว่าทำลายไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนให้ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติเข้าไปตรวจสอบ หากสามารถตกลงกับสหรัฐฯ เรื่องระบบโลจิสติกส์ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า นี่เป็นแค่ข้อเสนอเดิมๆ ที่ผู้นำเกาหลีเหนือนำมา ‘รีแพกเกจ’ ใหม่เพื่อยื้อเวลาหรือไม่

ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดต่อเปียงยาง และตนทราบดีว่าผู้นำโสมแดงต้องการบรรลุเงื่อนไขปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ เพื่อจะได้มีโอกาสพลิกฟื้นเศรษฐกิจและเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ

“ผมเองก็อยากจะยกเลิกมันเสีย แต่เราต้องได้อะไรบางอย่างแลกเปลี่ยนเสียก่อน” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว

โครงการอาหารโลก (UN World Food Program) ออกมาเตือนเมื่อวันอังคาร (8) ว่า พลเมืองเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตอย่างอดอยากแร้นแค้น เด็ก 1 ใน 5 มีภาวะทุพโภชนาการ ขณะที่ประชากรกว่า 10 ล้านจากทั้งหมดเกือบ 40 ล้านคนไม่มีอาหารรับประทานเพียงพอ และจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

จีน รัสเซีย และเกาหลีใต้ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยอมปลดล็อคมาตรการคว่ำบาตรให้แก่เกาหลีเหนือบางส่วน ซึ่งนักวิเคราะห์ก็เชื่อว่าวอชิงตันอาจนำมาพิจารณา

“เกาหลีเหนือได้ทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อมุ่งไปสู่การปลดนุกตามที่ผู้นำ คิม ได้สัญญาไว้แล้ว หากสหรัฐฯ ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะไม่ยกเลิกคว่ำบาตรจนกว่ากระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์จะสมบูรณ์แบบ ก็จะถูกประชาคมโลกติเตียนเอาได้” อาจารย์ ยาง มูจิน จากมหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซล ให้ความเห็น พร้อมระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่วอชิงตันจะผ่อนคลายบทลงโทษทีละน้อย โดยดูจากความคืบหน้าในการปลดอาวุธของเกาหลีเหนือ

ระหว่างการประชุมซัมมิตครั้งที่ 3 กับประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้เมื่อเดือน ก.ย. ผู้นำ คิม ได้แสดงความพร้อมที่จะปิดโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอน (Yongbyon) ซึ่งใช้ในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม หากสหรัฐฯ ยอมทำบางสิ่งบางอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน

หลังจากนั้นไม่นาน คัง คยุง-ฮวา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เกี่ยวกับ ‘ดีล’ ที่อาจจะทำให้สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือตกลงกันได้ โดยเธอเสนอให้อเมริกายอมประกาศยุติสงครามเกาหลี แลกกับการที่เกาหลีเหนือต้องทำลายโรงงานนิวเคลียร์แห่งสำคัญที่เมืองยองบยอน

จุดสิ้นสุดของสงครามเกาหลีซึ่งถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 1953 และการทำสนธิสัญญาสันติภาพกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ จะช่วยยกสถานะของเกาหลีเหนือให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และยังช่วยค้ำประกันความมั่นคงให้แก่รัฐโสมแดงซึ่งถูกปกครองโดยคนตระกูล คิม มาแล้วถึง 3 รุ่น
กำลังโหลดความคิดเห็น