เอเอฟพี - ครอบครัวนักร้องอเมริกันผิวสีชื่อดัง ‘พรินซ์’ (Prince) เรียกร้องให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ หยุดเอาเพลงของเขาไปเปิดบนเวทีหาเสียง เช่นเดียวกับศิลปินดังอีกหลายคนที่ประกาศห้ามผู้นำสหรัฐฯ รายนี้นำผลงานของพวกเขาไปใช้ประโยชน์เช่นกัน
โอมาร์ เบเกอร์ ศิลปินผิวสีซึ่งเป็นน้องชายต่างบิดาของพรินซ์ ได้ทวีตข้อความว่า “เดอะ พรินซ์ เอสเตต ไม่เคยอนุญาตให้ประธานาธิบดี ทรัมป์ หรือทำเนียบขาวนำเพลงของ พรินซ์ ไปใช้ และขอเรียกร้องให้พวกเขาหยุดใช้เพลงเหล่านั้นทันที”
ล่าสุด ทีมงาน ทรัมป์ ยังปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีในประเด็นนี้
มีรายงานว่าทีมงานของผู้นำสหรัฐฯ ได้นำเพลง ‘Purple Rain’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานสุดฮิตของ พรินซ์ ไปเปิดในงานรณรงค์หาเสียงก่อนศึกเลือกตั้งกลางเทอม รวมถึงบนเวทีปราศรัยที่รัฐมิสซิสซิปปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักร้อง นักดนตรี และตัวแทนศิลปินหลายคนต่างแสดงความไม่พอใจที่ ทรัมป์ นำผลงานของพวกเขาไปใช้ เช่น เดอะโรลลิงสโตนส์, อะเดล, นีล ยัง, R.E.M., แอโรสมิธ, ควีน และ จอร์จ แฮร์ริสัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มิค แจ็คเกอร์ นักร้องนำวงเดอะโรลลิงสโตนส์ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการถาม-ตอบทางทวิตเตอร์เมื่อ 2 ปีก่อนว่า กฎหมายสหรัฐฯ ไม่มีช่องทางให้พวกเขาสั่งห้าม ทรัมป์ นำเพลงไปใช้
“ถ้าเป็นสถานที่สาธารณะอย่าง เมดิสัน สแควร์ การ์เดน หรือในโรงภาพยนตร์ คุณสามารถเปิดเพลงอะไรก็ได้ และไม่มีใครมาห้ามคุณได้ด้วย ดังนั้นถ้าคุณแต่งเพลงและมีคนเอาเพลงนั้นไปเปิดในร้านอาหาร คุณก็ห้ามเขาไม่ได้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำ” เว็บไซต์เดอะเดลีบีสต์อ้างคำพูดของ แจ็คเกอร์
แม้กฎหมายสหรัฐฯ จะเปิดทางให้ศิลปินสามารถยื่นฟ้องและขอให้ศาลสั่งห้ามนำเพลงของตนไปใช้รณรงค์ทางการเมือง แต่ยังไม่เคยมีใครทำถึงขั้นนั้นมาก่อน
พรินซ์ เสียชีวิตเมื่อเดือน เม.ย. ปี 2016 ขณะอายุเพียง 57 ปี เนื่องจากรับประทานยาแก้ปวด ‘เฟนทานิล’ เกินขนาด และเนื่องจากเขาไม่ได้ทำพินัยกรรมและไม่มีลูกหลาน ทรัพย์สินทั้งหมดจึงตกอยู่ในความดูแลของพี่ๆ น้องๆ