เอเจนซีส์ – เกิดการชนกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในวันอาทิตย์(7 ต.ค) ระหว่างเรือขนส่งสินค้าสัญชาติตูนิเซียและสัญชาติไซปรัส 2 ลำ ส่งผลทำให้เกิดคราบน้ำมันยาว 4 ก.ม ด้านฝรั่งเศสและอิตาลีส่งทีมร่วมเก็บกู้ทำความสะอาด
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(7 ต.ค)ว่า เจ้าหน้าที่ยามฝั่งกล่าวว่า เรือขนส่งสินค้าอูลิซ (The Ulysse) ที่มีบริษัทสัญชาติตูนิเซีย CTN เกิดประสานงากับเรือขนส่งสินค้าอีกลำ ซีแอลเอส เวอร์จิเนีย (CLS Virgina) ที่มีฐานอยู่ในไซปรัส ระหว่างที่กำลังทอดสมอนอกฝั่งห่างจากแหลมปลายสุดทางเหนือของเกาะไซปรัสไปราว 30 ก.มเมื่อเวลา 07.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์(7)
แถลงการณ์ยังชี้ว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การชนประสานงาครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะกับเรือซีแอลเอส เวอร์จิเนียที่มีรอยเปิดเป็นทางยาวไม่กี่เมตร
และคราบน้ำมันที่หกนั้นมีขนาดใหญ่ที่พบว่ามีระยะทางไกลราว 4 ก.ม ในความกว้างไม่กี่เมตร โดยเริ่มตั้งแต่นอกชายฝั่งคอสตาริกาไปในทิศทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศทางไปยังฝรั่งเศสและอิตาลี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมทางทะเลฝรั่งเศสแถลงว่า เรือแอลเอส เวอร์จิเนียนั้นทำให้น้ำมันสำหรับการขับเคลื่อน(propulsion fuel) หกลงในทะเล แต่ไม่เปิดเผยในรายละเอียด
แหล่งข่าวได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า อาจเป็นเพราะเรือคาร์โกตูนิเซียนั้นแล่นมาด้วยความเร็วสูงมากเกินกว่าที่ตัวเรือจะรับได้ ทั้งนี้อ้างอิงจากการเผยแพร่ของบริษัท CTN ถึงตารางการเดินเรืออูลิซ พบว่าเรือลำนี้กำลังเดินทางออกจากเจนัว(Genoa)ในอิตาลี เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองท่าราเดส( Rades )ของตูนิเซียใกล้กับกรุงตูนิส
สื่อเยอรมันรายงานว่า ได้มีการส่งเรือลากจูงออกไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว ในขณะที่กองทัพเรือฝรั่งเศสส่งเรือสำหรับการเก็บกู้และทำความสะอาดคราบน้ำมันเข้าช่วย
และอิตาลีได้เสนอตัวเข้าช่วยเหลือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงราม็อกโปล (RamogePol accord)ระหว่างอิตาลี ฝรั่งเศส และโมนาโค ในการประสานงานเข้าแทรกแซงในปัญหาสภาวะแวดล้อมเป็นพิษทางทะเล