xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นร่วมซ้อมรบครั้งประวัติศาสตร์กับ “ฟิลิปปินส์-สหรัฐฯ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – ทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นชายหาดแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ในวันนี้ (6) ในการซ้อมรบร่วมกับทหารสหรัฐฯและฟิลิปปินส์ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่านับเป็นครั้งแรกที่ยานรบหุ้มเกราะของโตเกียวแล่นบนแผ่นดินต่างชาตินับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ญี่ปุ่นรับบทบาทช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการซ้อมรบครั้งนี้หลังจากนาวิกโยธินสหรัฐฯและฟิลิปปินส์ยกพลขึ้นบกเพื่อยึดแผ่นดินฟิลิปปินส์คืนจาก “กลุ่มก่อการร้าย”

ทหารญี่ปุ่นไร้อาวุธ 50 คนในชุดลายพรางเดินตามหลังยานรบหุ้มเกราะ 4 คันและรับทหารฟิลิปปินส์และสหรัฐฯที่รับบทบาทเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บขณะเคลื่อนตัวเหนือผืนทรายที่มีพุ่มไม้เล็กน้อย

การซ้อมรบครั้งนี้ที่ถูกตั้งชื่อรหัสว่า คามันดัก (พิษ) ถือเป็นครั้งแรกที่ยานรบหุ้มเกราะของญี่ปุ่นถูกใช้บนแผ่นดินต่างชาตินับตั้งแต่ประเทศนี้เริ่มใช้รัฐธรรมนูญใฝ่สันติหลังจากความปราชัยในปี 1945 พ.ต.โคคิ อิโนะอุเอะ ของญี่ปุ่น กล่าว

“วัตถุประสงค์ของเราคือการพัฒนาความสามารถเชิงปฏิบัติการและนี่เป็นโอกาสอันดีมากสำหรับเราที่จะพัฒนาการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฝึกเยียวยาภัยพิบัติ” อิโนะอุเอะ กล่าว พร้อมเสริมว่า ญี่ปุ่นไม่ได้รับบทบาทสู้รบในการฝึกซ้อมครั้งนี้

การฝึกซ้อมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในฐานทัพเรือของฟิลิปปินส์ที่อยู่ห่างจากสันดอนสการ์โบโรห์ในทะเลจีนใต้ราว 250 กิโลเมตร อาณาเขตที่ถูกอ้างสิทธิ์โดยมานิลาแต่ถูกจีนยึดในช่วงการเผชิญหน้าทางเรือปี 2012

หลังจากนั้น ฟิลิปปินส์ได้ยกระดับความร่วมมือทางทหารกับวอชิงตัน พันธมิตรเก่าแก่ของพวกเขา และยังจัดการซ้อมรบร่วมทางทะเลกับญี่ปุ่นใกล้สันดอนสการ์โบโรห์ในปี 2015

ญี่ปุ่นเองก็มีข้อพิพาททางอาณาเขตทะเลกับปักกิ่งในทะเลจีนตะวันออกเช่นกัน

กองทัพสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า การฝึกซ้อมในวันนี้ (6) ไม่ได้มุ่งเป้าที่จีนซึ่งก็สร้างเกาะเทียมบนพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้และติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารบนนั้น

“มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับต่างชาติหรือกองทัพต่างชาติ นี่เป็นการต่อต้านการก่อการร้ายภายในฟิลิปปินส์โดยเฉพาะ” ร.ท.แซ็ค โดเฮอร์ตี เจ้าหน้าที่สื่อสารนาวิกโยธินสหรัฐฯ บอกกับเอเอฟพี

โดเฮอร์ตี กล่าวเสริมว่า การยกพลขึ้นบกในวันนี้ (6) มีทหารสหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นเข้าร่วมราว 150 คน การซ้อมรบคามันดักนาน 10 วันของปีนี้จะสิ้นสุดในวันพุธ (10)




กำลังโหลดความคิดเห็น