xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ฉีกสนธิสัญญาไมตรีอิหร่าน-จวก ‘ศาลโลก’ เล่นการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไมตรีที่ทำร่วมกับอิหร่านเมื่อหลายสิบปีก่อน และข้อตกลงระหว่างประเทศอีก 1 ฉบับเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) หลังจากที่อิหร่านและปาเลสไตน์ร้องเรียนต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ให้สอบสวนนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการหันหลังให้กับข้อตกลงพหุภาคีครั้งล่าสุดในยุคของ โดนัลด์ ทรัมป์

จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ออกมาวิจารณ์ศาลยุติธรรมสูงสุดของสหประชาชาติว่า “เล่นการเมืองและไร้ประสิทธิภาพ” พร้อมประกาศว่าสหรัฐฯ จะขอทบทวนข้อตกลงนานาชาติทุกฉบับที่จะทำให้อเมริกาถูกผูกมัดโดยคำพิพากษาของ ICJ

ICJ ได้หยิบยื่นชัยชนะให้แก่อิหร่านในวันพุธ (3) โดยสั่งให้สหรัฐฯ ต้องรับรองว่ามาตรการคว่ำบาตรเตหะรานที่จะเริ่มบังคับใช้ในเดือน พ.ย.นั้นไม่กระทบต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หรือความปลอดภัยของการบินพลเรือน

ศาล ICJ ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเฮกถือเป็นเวทีที่ยูเอ็นใช้ในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐต่อรัฐ

การที่ ทรัมป์ ละทิ้งความเป็นพหุภาคีสร้างความหนักใจไม่น้อยต่อประเทศพันธมิตร ในช่วงเกือบ 2 ปีมานี้เขาได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ 6 ชาติมหาอำนาจทำร่วมกับอิหร่าน, ละทิ้งข้อตกลงปารีสที่มุ่งแก้ปัญหาโลกร้อน, ถอนตัวจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และยังขู่พันธมิตรนาโตว่าสหรัฐฯ จะ ‘เลือกทางเดินของตัวเอง’ หากสมาชิกอื่นๆ ไม่ยอมจ่ายงบกลาโหมเพิ่มขึ้น

สหรัฐฯ ประกาศถอนตัวจากสนธิสัญญาไมตรี (Treaty of Amity) ที่เคยทำร่วมกับอิหร่านเมื่อปี 1955 หรือหลายสิบปีก่อนจะเกิดการปฏิวัติอิสลามในปี 1979 ซึ่งทำให้ทั้ง 2 ชาติกลายมาเป็นศัตรูคู่แค้นจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลอิหร่านอ้างกับ ICJ ว่ามาตรการคว่ำบาตรที่ ทรัมป์ สั่งรื้อฟื้นเมื่อเดือน พ.ค. เป็นการละเมิดสัญญาดังกล่าว

โบลตัน ยังประกาศด้วยว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจาก “พิธีสารทางเลือก” (optional protocol) ซึ่งอยู่ภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตปี 1961 หลังจากปาเลสไตน์ได้ร้องเรียนไปยัง ICJ เมื่อเดือน ก.ย. กรณีสหรัฐฯ ย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม

“เราจะทบทวนข้อตกลงสากลทุกฉบับที่อาจจะทำให้สหรัฐฯ ต้องถูกผูกมัดโดยอำนาจตัดสินคดี และกลไกระงับข้อพิพาทของศาลโลก” โบลตัน กล่าว “สหรัฐฯ จะไม่ยอมนิ่งเฉยปล่อยให้ใครใช้ข้อกล่าวหาทางการเมืองมาโจมตีเรา”

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาน่าจะถอนตัวจากสนธิสัญญาไมตรีกับอิหร่านตั้งแต่หลายสิบปีก่อน และ ICJ ไม่มีอำนาจตัดสินชี้ขาดเรื่องการคว่ำบาตรที่จำเป็นต่อการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

“หลังจากที่ ICJ มีคำพิพากษาเมื่อเช้านี้ มันเป็นเหตุผลที่ดีที่เราจะแสดงให้เห็นว่า สัญญาไมตรีระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านมันไร้สาระแค่ไหน” พอมเพโอ กล่าว

โมฮัมเหม็ด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ออกมาตอบโต้การถอนตัวของสหรัฐฯ โดยทวีตข้อความวิจารณ์อเมริกาว่าเป็น “ระบอบนอกกฎหมาย” (outlaw regime)

รัฐบาลปาเลสไตน์มองว่าการย้ายสถานทูตอเมริกันไปยังนครเยรูซาเลมนั้นขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ และสมควรย้ายออกไปที่อื่น

“เรื่องนี้แม้จะเกี่ยวกับอิหร่านและปาเลสไตน์ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการตอกย้ำนโยบายของสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธอำนาจตัดสินของ ICJ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นองค์กรที่เล่นการเมืองและไร้ประสิทธิภาพ” โบลตัน กล่าว

“แต่ผมขอย้ำว่า สหรัฐฯ ยังคงเป็นภาคีอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเราหวังว่าทุกประเทศจะปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฉบับนี้”

สมัชชาใหญ่สหประชาชาติได้ประกาศรับรองปาเลสไตน์เป็นรัฐสังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิก (non-member observer state) เมื่อปี 2012 ทว่า สหรัฐฯ และอิสราเอลยังคงยืนกรานปฏิเสธความเป็นรัฐของปาเลสไตน์

กำลังโหลดความคิดเห็น