xs
xsm
sm
md
lg

InPics: ดูชัดๆ!!เรือพิฆาตจีนประชิดเรือรบสหรัฐฯใกล้แค่ไหน ทำเอามะกันเดือดพล่าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซี/ซีเอ็นเอ็น - เว็บไซต์ด้านการเดินเรือชั้นนำของโลกเผยแพร่ภาพเหตุเผชิญหน้ากันระหว่างเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำร่องของกองทัพเรือสหรัฐฯและเรือรบของจีน ซึ่งตีแผ่ให้เห็นว่ามันเฉียดใกล้ที่จะชนกันมากแค่ไหนในทะเลจีนใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่สร้างความเดือดดาลแก่วอชิงตันเป็นอย่างมาก

gCaptain.com เผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศโดยกองทัพเรือสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(2ต.ค.) เป็นภาพเรือพิฆาตยูเอสเอส ดีคาเตอร์และเรือพิฆาตลู่หยางของจีน แล่นสวนกันระหว่างเหตุเผชิญหน้า โดยดูเหมือนว่าเรือของจีนเบี่ยงเข้าหายูเอสเอส ดีคาเตอร์ ก่อนเรือรบสหรัฐฯจะหักหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกัน

เจ้าหน้าที่กองทัพเรือยืนยันกับเว็บไซต์ข่าวด้านการทหารของสหรัฐฯ Stars and Stripes ในวันพุธ(3ต.ค.) ว่าภาพถ่ายนี้ถูกต้อง แต่ไม่ทราบว่าเว็บไซต์ gCaptain.com เข้าถึงภาพเหล่านี้ได้อย่างไร เนื่องจากมันยังไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเวลา 8.30น.ของวันอาทิตย์(30ก.ย.) ด้วยเรือพิฆาตลู่หยางแล่นเข้ามาใกล้ภายในรัศมี 45 เมตรจากเรือดีคาเตอร์ ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยและไร้ความเป็นมืออาชีพ กองทัพเรือระบุเมื่อวันจันทร์(1ต.ค.) พร้อมเผยว่ามันเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์

จีนนั้นอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และยังสร้างสิ่งปลูกสร้างทางทหารมากมายบนหมู่เกาะสแปรตลีย์ แม้ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม อ้างสิทธิ์ทับซ้อนในน่านน้ำบางส่วนก็ตาม

กระทรวงกลาโหมจีนแถลงว่า เรือของตนแจ้งเตือนให้เรือดีคาเตอร์ออกจากน่านน้ำดังกล่าว หลังจากรุกล้ำเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมอเมริกายังส่งเรือรบและเครื่องบินรบเข้าสู่น่านฟ้าและทะเลอาณาเขตใกล้แนวปะการังและหมู่เกาะของจีนในทะเลจีนใต้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่คุกคามอธิปไตยและความมั่นคงของจีนอย่างรุนแรง อีกทั้งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างกัน และสร้างความเสียหายต่อสันติภาพและเสถียรภาพภายในภูมิภาค

อย่างไรก็ตามกองทัพเรือสหรัฐฯระบุว่าในตอนนั้นเรือยูเอสเอส ดีคาเตอร์ กำลังปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ดังกล่ว ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพเรือดำเนินการอยู่เป็นประจำ เพื่อรับประกันสิทธิเสรีภาพแห่งการเดินเรือผ่านน่านน้ำสากลแห่งนี้

เวลานี้กองทัพเรือสหรัฐฯกำลังตัดสินใจว่าจะทำการเผยแพร่ภาพถ่ายดังกล่าวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น