รอยเตอร์ - ผู้นำสหรัฐฯ ฝ่าธรรมเนียมการทูตอีกหนด้วยการคุยโวว่าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียจะทรงครองอำนาจอยู่ได้ “ไม่เกิน 2 สัปดาห์” หากไม่มีกำลังทหารของสหรัฐฯ ช่วยค้ำจุน
ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่เมืองเซาท์แฮฟเวนในรัฐมิสซิสซิปปีวานนี้ (2 ต.ค.) ว่า “เราให้การปกป้องซาอุดีอาระเบียอยู่ คุณคงคิดสินะว่าพวกเขารวย ผมเองก็รักกษัตริย์ซัลมาน แต่ผมบอกพระองค์ว่า พระราชา... เราปกป้องพระองค์อยู่นะ พระองค์จะอยู่ได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ด้วยซ้ำถ้าไม่มีเรา เพราะฉะนั้นต้องจ่ายค่าคุ้มกันทางทหารด้วย”
ทรัมป์ ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเขาเคยพูดเช่นนี้กับกษัตริย์ซาอุฯ เมื่อไหร่
แม้จะเป็นคำพูดที่รุนแรง แต่อันที่จริงแล้วรัฐบาล ทรัมป์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซาอุฯ ซึ่งมองว่าผู้นำสหรัฐฯ รายนี้เป็นปราการที่จะช่วยต้านอิทธิพลของอิหร่านได้
ทรัมป์ เลือกที่จะไปเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศแรก หลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
สำนักข่าวเอสพีเอของทางการซาอุฯ รายงานว่า ทรัมป์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานเมื่อวันเสาร์ (29 ก.ย.) เพื่อหารือแนวทางที่จะช่วยคงระดับอุปทาน เพื่อให้ตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจของโลกเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพ
ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก และในทางปฏิบัติก็ยังเป็นผู้นำกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งถูก ทรัมป์ วิจารณ์เรื่อยมาว่าเป็นตัวการทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง
ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นครนิวยอร์กเมื่อเดือนที่แล้วว่า พวกรัฐสมาชิกโอเปกว่า “ยังคงฉ้อโกงประเทศต่างๆ ทั่วโลกเหมือนเคย” และสหรัฐฯ “ปกป้องประเทศเหล่านี้โดยไม่ได้อะไรตอบแทน พวกเขายังคงฉวยโอกาสขึ้นราคาน้ำมัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย เราต้องการให้พวกเขาหยุดขึ้นราคา เราต้องการให้พวกเขาลดราคาลงมาอีก”
ทรัมป์ ยังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนีแบกรับค่าใช้จ่ายในการป้องกันประเทศให้มากกว่านี้