เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พบจดหมายและพัสดุที่ต้องสงสัยว่ามีการใส่ ‘สารพิษไรซิน’ ถูกจ่าหน้าซองถึงประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการกองทัพเรือ
หน่วยตำรวจลับ ‘ซีเคร็ต เซอร์วิส’ ซึ่งมีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า มีจดหมาย 1 ฉบับถูกส่งมาถึง ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ ( 1 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พัสดุต้องสงสัยอีกอย่างน้อย 2 ชิ้นถูกสกัดไว้ได้ที่ศูนย์คัดกรองไปรษณีย์ของกระทรวงกลาโหม
ซีเคร็ทเซอร์วิส ยืนยันว่า จดหมายดังกล่าว “ไม่ได้ถูกรับที่ทำเนียบขาว และยังไม่ได้ถูกนำเข้าไปยังทำเนียบขาวด้วย” ซึ่งทางตำรวจลับอยู่ระหว่างประสานไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด
คริส เชอร์วูด โฆษกเพนตากอน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คัดกรองไปรษณีย์ตรวจพบพัสดุที่น่าสงสัยว่าจะมีสารพิษไรซินเจือปนอยู่ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์ยืนยันเสียก่อน และตำรวจกลาโหมได้ส่งเรื่องนี้ไปให้สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ตรวจสอบแล้ว
เจ้าหน้าที่เพนตากอนยืนยันกับเอเอฟพีว่า พัสดุ 2 ชิ้นดังกล่าวถูกจ่าหน้าถึงรัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส และ พล.ร.อ.จอห์น ริชาร์ดสัน ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ
ศูนย์คัดกรองไปรษณีย์ไม่ได้ตั้งอยู่ภายในตัวอาคารหลักของเพนตากอน และพนักงานทุกคนต้องสวมชุดป้องกันสารพิษขณะตรวจสอบว่าจดหมายและพัสดุที่ส่งเข้ามานั้นปนเปื้อนไรซินซึ่งเป็นสารที่ถูกใช้เพื่อการก่อการร้ายหรือไม่
ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวซึ่งระบุว่า จดหมายและพัสดุที่ถูกส่งไปยังทำเนียบขาวและเพนตากอนนั้นมีสสารดิบจากเมล็ดละหุ่ง (castor bean) เจือปนอยู่ ซึ่งในทางเทคนิคแล้วยังสรุปว่าเป็นสารพิษไรซินไม่ได้ จนกว่าจะมีการตรวจพิสูจน์
ไรซินซึ่งเป็นสารสกัดจากเมล็ดละหุ่งจะก่อให้เกิดอันตรายถึงตายหลังจากกลืนกิน หายใจ หรือฉีดเข้าสู่ร่างกายเพียงไม่กี่นาที โดยมีพิษรุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 6,000 เท่า และปัจจุบันยังไม่มีตัวยาที่จะแก้พิษชนิดนี้ได้
ผู้ที่ถูกพิษไรซินจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เลือดออกภายใน หายใจลำบาก จนถึงแก่ความตายเนื่องจากอวัยวะภายในและระบบไหลเวียนเลือดล้มเหลว
