xs
xsm
sm
md
lg

โสมแดงชี้ ‘สนธิสัญญาสันติภาพ' ไม่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองให้ ‘ปลดนุก’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - การทำสนธิสัญญาสันติภาพยุติสงครามเกาหลีไม่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองให้เกาหลีเหนือยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ และเปียงยางก็จะ ‘ไม่คาดหวัง’ หากสหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการยุติสงคราม สื่อโสมแดงรายงานวันนี้ (2 ต.ค.)

ผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือได้ระบุไว้ในคำแถลงร่วมกับประธานาธิบดี มุน แจอิน แห่งเกาหลีใต้หลังการประชุมซัมมิตครั้งที่ 3 ที่กรุงเปียงยางเมื่อเดือน ก.ย. ว่า ตนพร้อมที่จะสั่งทำลายโรงงานนิวเคลียร์ยองบยอน (Yongbyon) อย่างถาวร หากสหรัฐฯ ยอมทำอะไรบางอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน

ประธานาธิบดี มุน ชี้ว่า ‘การแลกเปลี่ยน’ นั้นน่าจะหมายรวมถึงการทำสนธิสัญญาสันติภาพปิดฉากสงครามเกาหลีซึ่งถูกระงับไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงเมื่อปี 1953

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือได้ระบุในวันนี้ (2) ว่า การประกาศยุติสงคราม “ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ครึ่งศตวรรษก่อน” และถือเป็น “กระบวนการพื้นฐานและแรกเริ่มที่สุดสำหรับการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ รวมถึงสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีซึ่งสหรัฐฯ เองก็ต้องการให้เกิดขึ้น”

ในการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์ที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย. ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และผู้นำ คิม ได้บรรลุข้อตกลงกว้างๆ ว่า “จะช่วยกันสร้างสันติภาพที่มั่นคงและถาวรขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี”

อย่างไรก็ตาม วอชิงตันต้องการให้โสมแดงเปิดเผยรายละเอียดของโครงการพัฒนาอาวุธทั้งหมดที่มีอยู่ และลงมือทำลายคลังแสงเหล่านั้นอย่างไม่สามารถรื้อฟื้นกลับมาได้อีกเสียก่อน

เคซีเอ็นเอชี้ว่า โรงงานนิวเคลียร์ยองบยอนนั้นเป็น “หนึ่งในแกนหลักของโครงการนิวเคลียร์” และเปียงยางก็ได้มีมาตรการที่สำคัญและเป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติตามคำแถลงร่วมระหว่าง คิม กับ ทรัมป์ แล้ว แต่ฝ่ายสหรัฐฯ กลับยัง “พยายามกดขี่ผู้อื่นด้วยวิธีคว่ำบาตร”

สื่อโสมแดงระบุด้วยว่า การทำสนธิสัญญาสันติภาพเพื่อให้สงครามเกาหลีจบลงอย่างสมบูรณ์แบบนั้น “ไม่ใช่ของขวัญที่ใครคนหนึ่งมอบให้ใครอีกคนหนึ่ง” และ “ไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือต่อรองให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์”

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ 3 คนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเกาหลีเหนือโดยตรงยืนยันว่า การเจรจาอย่างจริงจังเพื่อทำลายหรือแม้กระทั่งระงับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของโสมแดงยังคงไม่มีความคืบหน้า

ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเคยให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า การทำลายโรงงานยองบยอนจะให้ผลเพียงแค่ชะลอการผลิตวัสดุฟิสไซล์เท่านั้น แต่ไม่ได้ลดจำนวนพลูโตเนียมและยูเรเนียมสมรรถนะสูงที่เกาหลีเหนือสะสมอยู่ และยังไม่อาจรับประกันได้ว่าพวกเขามีโรงงานผลิตวัสดุฟิสไซล์แห่งอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่อีกหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น