เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร (25 ก.ย.) ใช้เวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้กดดันอย่างหนักต่อทั้งอิหร่านและเหล่าคู่หูทางการค้าของวอชิงตัน พร้อมทั้งโวยวายใส่โอเปกและศาลอาญาระหว่างประเทศ
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อเหล่าผู้นำโลกในช่วงเริ่มต้นการประชุมประจำปีสมัชชาใหญ่สหประชาติ ทรัมป์แสดงความขุ่นเคืองต่อโอเปก, นโยบายทางการค้าของจีนและศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งเขาประกาศว่าสหรัฐฯจะไม่มีทางยอมรับในเรื่องเหล่านี้
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านจะขึ้นกล่าวบนเวทีเดียวกัน ทรัมป์ประณามรัฐบาลเตหะรานว่าเป็นพวกแพร่ลามความยุ่งเหยิง, ความตายและการทำลายล้าง รวมถึงย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ ในการถอนตัวจากข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยการระงับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีรายนี้มีสุ้มเสียงอ่อนลงในประเด็นเกาหลีเหนือ หลังจากหนึ่งปีก่อนหน้านี้เขาเคยสร้างความตกตะลึงแก่ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชชาติด้วยภาษาชวนทะเลาะกับเปียงยาง ในนั้นรวมถึงขู่ทำลายประเทศของคิม จองอึน โดยสิ้นเชิง
แต่มาหนนี้ ทรัมป์ ใช้เวทีเดียวกันป่าวประกาศเกี่ยวกับแนวทางทางการทูตของเขาในประเด็นเกาหลีเหนือ ในนั้นรวมถึงการประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์กับคิมเมื่อเดือนมิถุนายน และบอกด้วยว่าเขาดำเนินการ “ทดแทนวิญญาณแห่งความขัดแย้งด้วยความกล้าหาญและการผลักดันครั้งใหมเพื่อมุ่งหน้าสู่สันติภาพ”
อิหร่านคือประเด็นเพ่งเล็งสำคัญของการประชุมประจำปีของสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ หลายเดือนหลังจากทรัมป์ ก่อความขุ่นเคืองแก่พันธมิตรต่างๆของสหรัฐฯ ในยุโรป ด้วยการถอนอเมริกาพ้นจากข้อตกลงนานาชาติปี 2015 ที่ทางเตหะรานยอมระงับโครงการนิวเคลียร์แลกกับการปลดมาตรการคว่ำบาตร
หนึ่งวันหลังจากสหภาพยุโรปแถลงครอบกฎหมายใหม่ในความหวังว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถเดินหน้าทำธุรกิจกับอิหร่านต่อไปและเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ใกล้มีผลบังคับใช้ ทรัมป์เรียกร้องประเทศต่างๆ ล็อกเป้าเล่นงานเตหะราน และย้ำว่าการตัดสินใจของเขาได้รับเสี่ยงชื่นชมในหมู่เหล่าประเทศอาหรับสุหนี่คู่อริของอิหร่าน ที่มีชาวชีอะห์เป็นชนส่วนใหญ่
“เราไม่อาจยอมให้ผู้สนับสนุนก่อการร้ายชั้นนำของโลกครอบครองอาวุธที่อันตรายที่สุดในโลก” ทรัมป์กล่าวโดยกล่าวหาอิหร่านให้การสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวนักรบอิสลามิสต์อย่างฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ “เราไม่อาจยอมให้รัฐบาลที่ตะโกนด่า ไปตายซะอเมริกาและข่มขู่ทำลายล้างอิสราเอล มีหนทางในการปล่อยหัวรบนิวเคลียร์พุ่งสู่เมืองไหนๆ บนโลกใบนี้ เราร้องขอทุกประเทศโดดเดี่ยวรัฐบาลอิหร่านตราบใดที่พวกเขายังมีท่าทีก้าวร้าวอยู่”
นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังใช้เวทีนี้โจมตีมุมมองโลกาภิวัตน์และประกาศว่า “อเมริกาจะไม่เอ่ยปากขอโทษต่อการปกป้องพลเมืองของตนเอง” พร้อมระบุว่าศาลอาญาระหว่างประเทศที่ได้รับการสนับสนุนโดยสหประชาชาติ “ไม่มีอำนาจ ไม่มีขอบเขตอำนาจและไม่มีความชอบธรรม”
คำกล่าวของทรัมป์มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ขู่ดำเนินคดีกับพวกผู้พิพากษาศาลอาญาระหว่างประเทศในเมืองเฮก หากพวกผู้พิพากษาเหล่านั้นตั้งข้อหากับกองกำลังสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน “เราจะไม่มีวันยอมจำนนอำนาจอธิปไตยของอเมริกาต่อองค์กรโลกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ อเมริกาปกครองโดยคนอเมริกา” ทรัมป์กล่าว
ท่ามกลางสงครามการค้ากับจีนที่ลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆ ทรัมป์บอกว่าไม่อาจอดทนกับการค้าที่ไม่สมดุลกับมหาอำนาจเอเชียแห่งนี้ได้และใช้ถ้อยคำดุเดือดกับโอเปก ที่ในนั้นมีทั้งพันธมิตรและศัตรูของสหรัฐฯเป็นสมาชิกอยู่ “โอเปกและพวกประเทศโอเปก ขูดรีดประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเหมือนเคยๆ ผมไม่ชอบมันเลย และคงไม่มีใครชอบมันหรอก”
