เอเอฟพี – มอสโกจะเสริมการป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียด้วยระบบ S-300 และการก่อกวนเรดาร์เครื่องบินทหารที่โจมตีจากนอกชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ภายหลังการตกของเครื่องบินรัสเซีย
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เซียเก ชอยกู กล่าวว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน สั่งให้มีมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมหลังจากระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-200 ยุคโซเวียตของซีเรียยิงเครื่องบินหทารของรัสเซียตกด้วยความผิดพลาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน ในเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มอสโกโทษว่าเป็นความผิดของอิสราเอล
“เรื่องนี้ผลักดันให้เราต้องใช้มาตรการตอบสนองอย่างเหมาะสมโดยตรงไปที่การเสริมการรักษาความปลอดภัยให้ทหารรัสเซีย” ในซีเรีย ชอยกู กล่าวในถ้อยแถลงทางโทรทัศน์
“รัสเซียจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 รุ่นใหม่ให้กับกองทัพซีเรียภายในสองสัปดาห์”
กองทัพซีเรียได้รับการฝึกให้ใช้ระบบนี้แล้ว ซึ่งเดิมที่จะถูกส่งให้ในช่วงปี 2013 แต่ถูกระงับ “ตามคำขอของอิสราเอล” ชอยกู กล่าว
“ในพื้นที่ใกล้ซีเรียแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จะมีการมีการใช้คลื่นวิทยุสกัดกั้นการนำร่องทางดาวเทียมบนระบบเรดาร์และระบบสื่อสารของเครื่องบินทหารที่โจมตีเป้าหมายบนแผ่นดินซีเรีย”
มอสโก ระบุว่า เครื่องบิน F-16 ของอิสราเอลที่โจมตีลาตาเกียในภาคตะวันตกของซีเรียเมื่อวันที่ 17 กันยายนได้ใช้เครื่องบินลาดตระเวน Il-20 ของรัสเซียที่กำลังลงจอดเป็น “โล่กำบัง” ส่งผลให้เครื่องบิน Il-20 ถูกโจมตีจากขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย
“เราแน่ใจว่า การตระหนักถึงมาตรการเหล่านี้จะทำให้ ‘พวกอารมณ์ร้อน’ ใจเย็นลง และจะปรามไม่ให้พวกเขาทำเรื่องไร้หัวคิดที่เป็นภัยต่อทหารของเรา” ชอยกู กล่าว