เอเอฟพี – การระบาดของเชื้ออหิวาตกโรคในภาคตะวันออกเฉียงของไนจีเรียคร่าชีวิตคนอย่างน้อย 100 คนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ ระบุในวันนี้ (22)
มีรายงานผู้ป่วยอหิวาตกโรคกว่า 3,000 คนในรัฐโยเยและรัฐบอร์โนในภูมิภาคที่กำลังเผชิญกับการก่อกบฏของกลุ่มโบโกฮารัมอยู่ด้วย ยูเอ็น ระบุ
“จำนวนผู้ป่วยที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในทั้งสองรัฐตอนนี้อยู่ที่ 3,126 คนรวมถึงผู้เสียชีวิต 97คน” สำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรมของยูเอ็น (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs : OCHA) ระบุ
การระบาดถูกประกาศเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วในรัฐบอร์โนซึ่งมีผู้พลัดถิ่นหลายแสนคนอาศัยอยู่ในค่ายต่างๆ
กลุ่มโบโกฮารัมยกระดับการโจมตีโดยเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
เมื่อวันพุธ (19) ยูเอ็นรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคกว่า 500 คนในพื้นที่ทะเลสาบชาดนับตั้งแต่เมื่อต้นปี นับเป็นการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในพื้นที่นี้ในรอบ 4 ปี
ยูเอ็น ระบุว่า มีผู้อาจไดรับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้กว่า 6 ล้านคน แต่กลับไม่มีการดำเนินการเร่งด่วนเพื่อควบคุมมัน
น้ำท่วมและฝนตกหนักที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็น “สภาพแวดล้อมอันเหมาะสมสำหรับการระบาดของโรคนี้” OCHA เตือน
พื้นที่ทะเลสาบชาดคร่อมบางส่วนของไนจีเรีย แคเมอรูน ชาด และไนเจอร์ ซึ่งก็ต้องรับมือกับการก่อกบฏของนักรบญิฮาดเช่นกัน
OHCA ระบุว่า ไนจีเรีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของแอฟริกา ได้รับผลกระทบหนักที่สุดด้วยตัวเลขผู้ป่วยทั้งหมด 24,000 ราย และระบุว่า จำเป็นต้องมีการดำเนินการยับยั้งโรคร้ายนี้ในทันที
อหิวาตกโรคเกิดจากเชื้อแบคทีเรียจากอาหารและน้ำดื่มปนเปื้อน มันทำให้เกิดอาการท้องร่วงฉับพลัน โดยในเด็กจะมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ
โรคต่างๆ ที่เกิดจากน้ำเป็นภัยคุกคามเรื้อรังในพื้นที่ทะเลสาบชาด เนื่องจากการไม่มีสุขอนามัยอย่างเพียงพอรวมทั้งน้ำบาดาลที่แน่นิ่งในช่วงฤดูฝน
