รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (20 ก.ย.) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานหน่วยงานทางทหารของจีนพร้อมด้วยผู้บัญชาการ ต่อกรณีซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรของอเมริกาที่ตราขึ้นเมื่อปี 2017
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าจะทำการคว่ำบาตรกรมการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ (Equipment Development Department) ของจีน ซึ่งดูแลด้านเทคโนโลยีป้องกันตนเอง และ หลี่ ฉางฟู่ ผู้บัญชาการหน่วยงานดังกล่าวในทันที ต่อกรณีติดต่อทำธุรกรรมสำคัญกับโรโซโบรอนเอ็กซ์พอร์ต(Rosoboronexport) ผู้ส่งออกอาวุธหลักของรัสเซีย
นอกจากนี้ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังขึ้นบัญชีดำเพิ่มเติม 33 บุคคลและองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกองทัพและหน่วยข่าวกรองรัสเซีย โดยบรรจุชื่อของพวกเขาและองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆเหล่านั้นเข้าไปในบัญชีคว่ำบาตรภายใต้กฎหมายปี 2017 ที่เรียกว่ากฎหมายต่อต้านศัตรูของอเมริกาด้วยการคว่ำบาตร( Countering America's Adversaries Through Sanctions Act พรือ CAATSA)
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรจีนครั้งนี้มีเป้าหมายเล่นงานเพียงมอสโกเท่านั้น ไม่ได้เล็งเป้าไปที่ปักกิ่งหรือกองทัพของพวกเขา
“เป้าหมายท้ายที่สุดของมาตรการคว่ำบาตรนี้ก็คือรัสเซีย การคว่ำบาตรตามกฎหมาย CAATSA ในบริบทนี้ไม่ได้มีเจตนาบ่อนทำลายแสนยานุภาพด้านป้องกันตนเองหรือประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ มันมีเป้าหมายกำหนดให้รัสเซียต้องชดใช้ และตอบโต้ความเคลื่อนไหวปองร้ายของพวกเขา”
มาตรการนี้มีออกมาในขณะที่รัฐบาลของทรัมป์กำลังเดินหน้ายุทธศาสตร์ที่หลากหลายในความพยายามปรามจีน และกำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันเพิ่มมากขึ้นให้ตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อรายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯที่ระบุว่ารัสเซียกำลังแทรกแซงการเมืองของอเมริกา
สมาชิกสภาคองเกรสหลายเสียงมาจากพรรครีพับลิกันของทรัมป์เอง ยกมือผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยคะแนนเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ พร้อมเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้รัฐบาลใช้แนวทางที่แข็งกร้าวจัดการกับมอสโก
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้เกี่ยวข้องกับกรณีที่จีนสั่งซื้อเครื่องบินประจัญบาน SU-35 ของรัสเซีย จำนวน 10 ลำในปี 2017 และยุทโธปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่อากาศ S-400 ในปี 2018
มาตรการคว่ำบาตรนี้จะขัดขวางหน่วยงานจีน จากการยื่นขอใบอนุญาตส่งออกและจากการมีส่วนร่วมทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของสหรัฐฯ