เอเอฟพี – วอชิงตันเตรียมที่จะเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯในเกาหลีใต้ท่ามกลางพัฒนาการทางการทูตอันรวดเร็วบนคาบสมุทรแห่งนี้ ในขณะที่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือหยุดชะงัก
สหรัฐฯประจำการทหาร 28,500 คนในเกาหลีใต้ พันธมิตรตามสนธิสัญญา เพื่อปกป้องประเทศนี้จากเพื่อนบ้านผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเคยเข้ารุกรานในปี 1950 เป็นชนวนให้เกิดสงครามเกาหลี
พล.อ.โรเบิร์ต บี.เอบรามส์ ผู้บัญชาการของกองบัญชาการกองทัพบกสหรัฐฯ จะเข้ารับการไต่สวนตรวจสอบคุณสมบัติในสัปดาห์หน้าก่อนบัญชากรกองกำลังสหรัฐฯในเกาหลีใต้ (US Forces Korea : USFK) เว็บไซต์ของคณะกรรมการกิจการทหารวุฒิสภา เผย
หากการเสนอชื่อเขาได้รับการอนุมัติ เขาจะรับตำแหน่งต่อจาก พล.อ.วินเซนต์ บรู๊ค ในฐานะผู้บัญชาการ USFK กองบัญชาการของยูเอ็นและกองกำลังผสมเกาหลีใต้-สหรัฐฯในเกาหลี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2016
ผู้บัญชาการอธิบายช่วงเวลาของเขาในเกาหลีใต้ว่าเหมือน “การนั่งรถไฟเหาะ” เนื่องจากคาบสมุทรแห่งนี้เปลี่ยนจากภาวะสุ่มเสี่ยงเกิดสงครามสู่การประชุมซัมมิทครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯและผู้นำ คิม จองอึน ของเกาหลีเหรือ
“เราผ่านพ้นช่วงเวลาความตึงเครียดหนักหน่วงและอันตรายอย่างยิ่งสู่ช่วงเวลาแห่งโอกาสอันเยี่ยมยอดและกลับไปกลับมาบ้างระหว่างสองห้วงนี้ ทำให้ไม่มีทางมั่นใจได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้” บรู๊ค บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงโซล เมื่อเดือนที่แล้ว
“ดังนั้นมันจึงค่อนข้างเป็นการวางเดิมพันและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาประวัติศาสตร์เช่นนี้” เขากล่าวเสริม
เอบรามส์ ซึ่งพ่อของเขา พล.อ.เครตัน ดับเบิลยู.เอบรามส์ จูเนียร์ เป็นอดีตเสนาธิการทหารบก มีพื้นเพมาจากครอบครัวอาชีพทหาร
เขาเคยดำรงตำแหน่งสายบัญชาการและเสนาธิการหลายตำแหน่งใน Army and Joint Community ในเยอรมนี สหรัฐฯ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างอายุราชการ 34 ปีของเขา