รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา สั่งให้พวกชาวบ้านบนหมู่เกาะเอาท์เตอร์ แบงค์ส เริ่มต้นอพยพตั้งแต่วันจันทร์(10ก.ย.) หลังพายุฟลอเรนซ์ เฮอร์ริเคนรุนแรงลูกแรกที่คุกคามทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯในปีนี้ ทวีความรุนแรงสู่เฮอร์ริเคนระดับ 4
ด้วยแรงลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุฟลอเรนซ์ได้ทวีความรุนแรงสู่เฮอร์เริเคนระดับ 3 ตอนประมาณ 11.00น.ของวันจันทร์(ตรงกับเมืองไทย 22.00น) ตามข้อมูลของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ก่อนต่อมาราว 2 ชั่วโมง มันจะทวีความรุนแรงเสู่เฮอร์ริเคนระดับ 4 ด้วยแรงลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนว่าพายุลูกนี้จะกลายเป็นเฮอร์ริเคนรุนแรงที่อันตรายอย่างยิ่งตอนที่มันขึ้นฝั่ง ด้วยคาดหมายว่าเป้าหมายของมันคือทั้งนอร์ทและเซาท์แคโรไลนาในวันพฤหัสบดี(13ก.ย.)
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯระบุในคำแนะนำว่าเฮอร์ริเรนกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างที่มันเคลื่นอผ่านน่านน้ำอุ่นแอตแลนติก ห่างจากเคป เฟียร์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ค่อนไปทางตะวันออก ราว 2,000 กิโลเมตร
ทั้งเกาะแฮตเทอแรส อยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และพื้นที่อื่นๆของหมู่เกาะเอาท์เตอร์ แบงค์ส จะต้องอพยพออกมาในเวลา 7.00น.ของวันอังคาร(ตรงกับเมืองไทย 18.00น.)
ข้อมูลของศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติระบุว่ากำลังลมของเฮอร์ริเคนอาจซัดกระหน่ำทั้งนอร์ทและเซท์แคโรไลนาตอนกลางคืนวันพุธ(12ก.ย.) และมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นฝั่งทั้งสองรัฐในวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจนำพาฝนตกหนักและก่อน้ำท่วมครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ
เหล่าผู้ว่าการรัฐของรัฐเวอร์จิเนีย, นอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนา ต่างพากันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
พวกชาวบ้านที่อยู่ขึ้นไปทางเหนืออย่างเช่นในรัฐเวอร์จิเรีย ได้รับคำเตือนว่าเฮอร์ริเคนอาจก่อสตรอม เซิร์จ คุกคามชีวิต เช่นเดียวกับน้ำท่วมจากฝนตกหนักและยาวนาน
นอกจากพายุฟลอเรนซ์แล้ว ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯกำลังติดตามเฝ้าระวังเฮอร์ริเคนอื่นๆอีก 2 ลูกที่อยู่ไกลออกไปในแอตแลนติก
พายุไอแซค ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนลูกที่ 5 ประจำฤดูกาลเฮอร์ริเคนแอตแลนติกในปี 2018 เมื่อวันอาทิตย์(9ก.ย.) โดยจนถึงตอนเช้าวันจันทร์(10ก.ย.) มันอยู่ห่างจากหมู่เกาะวินด์วาร์ด ไปทางตะวันออกราว 1,985 กิโลเมตร ด้วยแรงลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนเฮอร์ริเคนเฮเลน กำลังหมุนติ้วอยู่ในแอตแลนติก นอกชายฝั่งทางตะวันตกของหมู่เกาะเคปเวิร์ด ในแอฟริกาตะวันตก ด้วยแรงลม 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันจันทร์(10ก.ย.) แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีภัยคุกคามอย่างทันทีทันใดต่อผืนแผ่นดิน