เอเอฟพี - พรรคโซเชียลเดโมแครต ของนายกรัฐมนตรี สเตฟาน ลอฟเวน แห่งสวีเดน ดูจะสามารถครองฐานะเป็นพรรคที่ชนะมากที่สุดในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาวันอาทิตย์ (9 ก.ย.) ขณะเดียวกัน ผลเอ็กซิตโพลยังคาดการณ์ด้วยว่า พรรคขวาจัดได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเยอะ ถึงแม้ยังห่างไกลจากการก้าวแซงขึ้นเป็นผู้ได้รับเสียงโหวตสูงสุด
ผลการหยั่งเสียงผู้ไปใช้สิทธิขณะออกจากหน่วยเลือกตั้ง (เอ็กซิตโพล) ของสถานีโทรทัศน์ ทีวี 4 ทำนายว่าพรรคโซเชียลเดโมแครตจะชนะได้เสียงโหวต 25.4% ขณะที่ เอสวีที บริษัทวิทยุและโทรทัศน์ภาคสาธารณะ คาดการณ์ว่าพรรคนี้จะได้คะแนน 26.2% หากคะแนนเอ็กซิตโพลทั้ง 2 เจ้านี้ได้รับการยืนยันจากผลการนับคะแนนจริงแล้ว ก็จะทำให้โซเชียลเดโมแครตยังคงสามารถฐานะการเป็นพรรคใหญ่ที่สุดเอาไว้ได้ ถึงแม้จะเป็นคะแนนเสียงที่ต่ำที่สุดซึ่งพวกเขาเคยได้รับในรอบระยะเวลามากกว่า 1 ศตวรรษก็ตาม
ส่วนพรรคสวีเดนเดโมแครต (เอสดี) ที่มีแนวทางขวาจัด และหาประโยชน์อย่างเต็มที่จากการที่พวกผู้ออกเสียงมีความรู้สึกหงุดหงิดผิดหวังกับนโยบายการต้อนรับผู้อพยพนั้น ได้รับการคาดหมายว่าจะทำคะแนนดีขึ้นกว่าเดิมเป็นกอบเป็นกำ แต่ยังคงต่ำว่าสิ่งที่ผลโพลต่างๆ ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งชี้เอาไว้
จิมมี อัคเคสสัน ผู้นำของพรรคซีดี เคยพูดเอาไว้ว่าเขาวาดหวังว่าพรรคจะชนะได้คะแนนโหวตระหว่าง 20-30%
แต่เอ็กซิตโพลของทีวี 4 บอกว่าพรรคโมเดอเรตส์ ซึ่งเป็นพวกอนุรักษนิยม จะเข้าป้ายเป็นอันดับ 2 โดยได้เสียง 18.4% ขณะที่เอสดีได้ 16.3% สูงขึ้นจากที่เคยได้ 12.9% ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 4 ปีก่อน
สำหรับเอ็กซิตโพลของเอสวีที ให้เอสดีเข้าอันดับ 2 โดยได้คะแนนเสียง 19.2% และพรรคโมเดอเรตส์ อยู่อันดับ 3 ได้ 17.8%
นายกฯ ลอฟเวน ได้เรียกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เป็น “การลงประชามติเกี่ยวกับอนาคตของรัฐสวัสดิการ” แห่งนี้ แต่เอสดีพยายามเสนอภาพว่ามันเป็นลงคะแนนเรื่องผู้อพยพและการบูรณาการผู้คนเหล่านี้ให้เข้ากับสังคมสวีเดน หลังจากที่ชาติยุโรปเหนือรายนี้ได้ต้อนรับผู้ยื่นขอฐานะเป็นผู้ลี้ภัยเอาไว้เกือบๆ 400,000 คนนับแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
เอสดี ซึ่งมีรากเหง้าอยู่ในขบวนการนาซีใหม่ บอกว่าการเข้ามาของพวกต้องการฐานะผู้ลี้ภัย คือภัยคุกคามต่อวัฒนธรรมสวีเดน และอ้างว่าผู้อพยพลี้ภัยเหล่านี้ทำให้รัฐสวัสดิการของประเทศซึ่งเอื้ออารียิ่ง ต้องบังเกิดความขึงตึงเครียดเค้นขึ้นมา
“ทุกสิ่งทุกอย่างบ่งชี้ว่า เรากำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งที่ดี” อัคเคสสัน หัวหน้าพรรคเอสดี บอกกับสำนักข่าวทีที ภายหลังไปลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในกรุงสต็อกโฮล์มเมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ (9)
ขณะที่ ลอฟเวนรบเร้าชาวสวีเดนว่าจะต้องไม่ลงคะแนนให้แก่พรรคที่เขาเรียกว่า “พรรคนักเหยียดเชื้อชาติ” ในตอนที่เขาไปใช้สิทธิลงคะแนน
“มันเป็นเรื่อง ... เกี่ยวกับความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เกี่ยวกับประชาธิปไตยที่ถูกทำนองคลองธรรม และพรรคโซเชียลเดโมแครต หรือรัฐบาลที่มีโซเชียลเดโมแครตเป็นผู้นำนี่แหละ คือหลักประการอย่างหนึ่งสำหรับการไม่ยอมปล่อยให้พรรคสุดโต่ง สวีเดน เดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคนักเหยียดเชื้อชาติ สามารถมีอิทธิพลใดๆ ในคณะรัฐบาล”
โซเชียลเดโมแครต ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นพรรคใหญ่ที่สุดของสวีเดน ได้เป็นผู้นำของรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดปัจจุบัน ซึ่งพวกเขาจัดตั้งขึ้นมาร่วมกับพรรคกรีนส์ นับตั้งแต่ปี 2014
ในอดีตที่ผ่านมา สวีเดนเคยได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของพวกที่มุ่งหวังจะได้รับฐานะเป็นผู้ลี้ภัย โดยตามตัวเลขของสำนักงานสถิติสวีเดน ประชากรที่มีอยู่ทั้งสิ้น 10 ล้านคนของสวีเดนในปัจจุบัน เป็นผู้ที่เกิดในต่างแดนถึงประมาณ 18.5%
ผลการเลือกตั้งขั้นสุดท้ายมีกำหนดออกมาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่กว่าจะมีการจัดตั้งคณะรัฐบาลผสมขึ้นมาคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์