xs
xsm
sm
md
lg

In Clips: สุดเหลือเชื่อ!! “ทรัมป์” ตัดเงินช่วยโรงพยาบาล 25 ล้านดอลลาร์ รักษาผู้ป่วยปาเลสไตน์ในเยรูซาเลมตะวันออก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯยืนยันเมื่อวานนี้(8 ก.ย) ผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้ยกเลิกให้เงินสนับสนุนจำนวน 25 ล้านดอลลาร์สำหรับการให้รักษาพยาบาลคนไข้ชาวปาเลสไตน์ในโรงพยาบาลที่เยรูซาเลมตะวันออก ด้านปาเลสไตน์ออกมาประณาม ประกาศถือเป็นการแสดงความก้าวร้าวโดยตรงต่อชาวปาเลสไตน์

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(8 ก.ย)ว่า แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์ออกมาชี้ว่า การออกมายกเลิกเงินช่วยเหลือของสหรัฐฯในครั้งนี้ “เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบั่นทอนสิ่งที่จำเป็นต่อชาวปาเลสไตน์” และชี้ว่าอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในชีวิตจำนวนมากของชาวปาเลสไตน์และรวมไปถึงความมั่นคงในชีวิตเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จำนวนหลายพันคนของโรงพยาบาลในเยรูซาเลมตะวันออก

“นี่เป็นการยกระดับอย่างไม่มีเหตุผลและเป็นอันตรายของสหรัฐฯที่ได้ก้าวข้ามทุกเส้นแดง และถูกมองได้ว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวทางตรงต่อประชาชนชาวปาเลสไตน์” รายงานจากแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์

ซึ่งในวันเสาร์(8) แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯได้กล่าวให้ข้อมูลว่า “เป็นผลจากการพิจารณาภายใต้คำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทางเราได้โยกงบโดยประมาณราว 25 ล้านดอลลาร์ ที่แต่เดิมเป็นงบสำหรับเครือข่ายโรงพยาบาลเยรุซาเลมตะวันออกไปให้กับโปรเจกต์สำคัญที่อื่นแทน”

ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่าโรงพยาบาลที่ถูกตัดเงินช่วยเหลือคือเครือข่ายโรงพยาบาล อัล-คุดส์(al-Quds) ที่มีโรงพยาบาลจำนวน 6 โรงอยู่ในระบบ ซึ่งนอกเหนือจากการให้รักษาพยาบาลทั่วไปแล้วยังให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานแก่ชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในเขตยึดครองของอิสราเอล อ้างอิงจากสื่อปากีสถานทีวี

องค์การอนามัยโลก WHO เคยระบุว่าโรงพยาบาลอัล-คุดส์ให้การรักษาพยาบาลแก่ชาวปาเลสไตน์ที่ไม่สามารถได้รับความชวยเหลือทางการแพทย์ได้ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์และในส่วนที่ถูกยึดของฉนวนกาซ่า

ด้าน อัดนาน ฮุสเซนนี ( Adnan Husseini) รัฐมนตรีปาเลสไตน์ด้านกิจการเยรูซาเลม อัล-คุดส์กล่าวให้สัมภาษณ์กับ NPR ของสหรัฐฯว่า การออกมายกเลิกการให้งบอุดหนุนแก่โรงพยาบาลลล่าสุดถือว่า “ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจ” พร้อมย้ำว่าชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมจำนนต่อวอชิงตัน

“ขอให้อเมริการับรู้ว่า ทุกการกระทำที่เกิดขึ้นจะไม่มีวันเปลี่ยนจุดยืนของเราต่อทุกปัญหารวมไปถึง เยรูซาเลม (อัล-คุดส์)”

รอยเตอร์รายงานว่า โดยในต้นปีนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้มีการทบทวนโครงการให้เงินช่วยเหลือของสหรัฐฯทั้งหมดต่อชาวปาเลสไตน์ โดยชี้ว่า ต้องการให้เม็ดเงินถูกใช้เพื่อตอบสนองต่อผลกระโยชน์ของสหรัฐฯเท่านั้น และแสดงต่อคุณค่าของผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน

รอยเตอร์ชี้ว่า ซึ่งการออกมาตัดงบช่วยเหลือโรงพยาบาลในเยรูซาเลมตะวันออกล่าสุดนั้น เป็นความพยายามของทรัมป์ในการที่จะโดดเดี่ยวพลเมืองปาเลสไตน์ รวมไปถึงการยอมรับให้เยรุซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และการย้ายสถานทูตสหรัฐฯไปยังเมืองเยรูซาเลม ถือเป็นการหันหลังทางนโยบายการต่างประเทศอย่างยาวนานของสหรัฐฯภายใต้การชี้นำของ จาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยทรัมป์ และที่ปรึกษาระดับสูงประจำทำเนียบขาว

ในเดือนที่ผ่านมารัฐบาลทรัมป์ประกาศจะตัดเงินให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ชาวปาเลสไตน์มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการในเขตเวสต์แบงก์และกาซ่า และเคลื่อนย้ายเงินก้อนนี้ไปที่อื่นแทน

และในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมพบว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้หยุดให้เงินช่วยเหลือทุกประเภทแก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ UNRWA สร้างเสียงประณามไปทั่ว และมีคำเตือนออกมาว่า การยกเลิกความช่วยเหลือชั่วคราวของสหรัฐฯในครั้งนี้จะเพิ่มความยากไร้ ความโกรธ และความไร้เสถียรภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ซึ่งทางสหรัฐฯได้สร้างเงื่อนไขให้ทาง UNRWA ต้องทำการปฎิรูปองค์กรเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ รวมไปถึงกดดันฝั่งปาเลสไตน์ให้กับเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล ซึ่งการเจรจารอบล่าสุดที่สหรัฐฯเป็นเจ้าภาพหยุดชะงักไปเมื่อปี 2014






กำลังโหลดความคิดเห็น