xs
xsm
sm
md
lg

Weekend Focus: ‘มหาเธร์’ ขวางโปรเจ็กต์แสนล้าน ‘ฟอเรสต์ซิตี้’ ลั่นต่างชาติหมดสิทธิ์ซื้อ-ไม่ออกวีซ่าให้อยู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สร้างความตกตะลึงไปทั่วเมื่อนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซียออกมาประกาศห้ามชาวต่างชาติเข้าซื้อที่พักอาศัยในโครงการ ‘ฟอเรสต์ซิตี้’ (Forest City) อสังหาริมทรัพย์หรูมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์ที่นอกชายฝั่งรัฐยะโฮร์ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ถึงสัญญาณต่างๆ ซึ่งเตือนว่าอภิมหาโปรเจ็กต์นี้อาจไปไม่รอด เช่นเดียวกับอีกหลายโครงการที่รัฐบาลชุดก่อนริเริ่มไว้

ฟอเรสต์ซิตี้ เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดยักษ์โดยบริษัท Country Garden Pacificview (CGPV) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Country Garden ของจีนกับบริษัท Esplanade Danga 88 สัญชาติมาเลเซียที่สุลต่าน อิบราฮิม อิสมาอีล แห่งรัฐยะโฮร์ทรงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

โครงการนี้จะใช้งบประมาณราว 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเนรมิตบ้านพักและอพาร์ตเมนต์หรูขึ้นบนเกาะ 4 เกาะซึ่งเกิดจากการถมทะเล โดยคาดว่าจะสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 700,000 คนเมื่อโครงการแล้วเสร็จในปี 2035

ด้วยระยะเวลาเดินทางจากสิงคโปร์เพียง 1 ชั่วโมง คาดว่าฟอเรสต์ซิตี้จะสามารถดึงดูดทั้งนักลงทุนและพวกเศรษฐีกระเป๋าหนักซึ่งมองหาตัวเลือกราคาถูกกว่า แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสนามบิน ท่าเรือ ศูนย์การค้า โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งศูนย์พักพิงผู้อพยพ

จากข้อมูลล่าสุดพบว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่เข้าซื้อที่พักในฟอเรสต์ซิตี้เป็นชาวจีน มีชาวมาเลเซียเพียง 1 ใน 5 ส่วนที่เหลือมาจากอีก 22 ประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย เวียดนาม และเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ถูกคัดค้านโดยชาวรัฐยะโฮร์ส่วนหนึ่งซึ่งไม่พอใจที่ฟอเรสต์ซิตี้ทำท่าจะกลายเป็น ‘อาณานิคมใหม่’ ของจีน และยังมีเสียงเตือนจากนักอนุรักษ์ว่าการถมทรายสร้างเกาะเทียมจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศและการประมง

หลังจากที่กลุ่ม บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ค. และเปิดทางให้ มหาเธร์ วัย 93 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง โครงการฟอเรสต์ซิตี้ก็ถูกหมายหัวว่าอาจจะกลายเป็น ‘white elephant’ หรือของหรูหราที่ไม่มีประโยชน์ในสายตารัฐบาลใหม่

มหาเธร์ ผู้มีจุดยืนต่อต้านอิทธิพลของจีนได้สั่งระงับโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ มูลค่ากว่า 22,000 ล้านดอลลาร์ที่ นาจิบ เปิดไฟเขียวให้จีนเข้าไปลงทุน หนึ่งในนั้นคือโครงการสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างชายแดนภาคใต้ฝั่งตะวันออกของไทยกับเส้นทางเดินเรือบริเวณช่องแคบมะละกา (East Coast Rail Link) และโครงการท่อส่งน้ำมันในรัฐซาบาห์ โดย มหาเธร์ อ้างว่าข้อตกลงเหล่านี้มีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมต่อมาเลเซีย

ความสัมพันธ์จีน-มาเลเซียแน่นแฟ้นเป็นพิเศษตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ นาจิบ ครองอำนาจ โดยเขาได้เซ็นอนุมัติให้จีนเข้าไปลงทุนในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคหลายอย่าง จนเกิดข้อครหาว่านี่คือการเอื้อประโยชน์เพื่อให้ปักกิ่งช่วยชดใช้หนี้สินอันเกิดจากการทุจริตยักยอกเงินกองทุน 1MDB

สัปดาห์ที่แล้ว มหาเธร์ ได้ออกมาวิจารณ์โครงการฟอเรสต์ซิตี้อย่างเผ็ดร้อนว่าเป็น “โครงการสำหรับชาวต่างชาติ ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อชาวมาเลเซีย”

มหาเธร์ ให้เหตุผลว่า บ้านและคอนโดฯ หรูเหล่านี้มีราคาแพงระยับเกินกว่าที่ชาวมาเลเซียส่วนใหญ่จะซื้อได้ และรัฐบาลก็ไม่ยินดีออกวีซ่าระยะยาวให้แก่ชาวต่างชาติเพียงเพราะคนเหล่านั้นซื้อที่พักในโครงการดังกล่าว

“เมืองที่สร้างขึ้นจะไม่สามารถขายให้ชาวต่างชาติได้... เราจะไม่ออกวีซ่าให้คนเหล่านั้นเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่” มหาเธร์ กล่าว

ถ้อยแถลงที่เปี่ยมด้วยกลิ่นไอชาตินิยมของ มหาเธร์ นั้นขัดแย้งกับกฎหมายมาเลเซียซึ่งอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อที่พักได้อย่างถูกกฎหมาย กระทั่งสำนักนายกรัฐมนตรีต้องออกมาชี้แจงว่า ผู้นำเสือเหลืองหมายความว่าการเข้าซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าชาวต่างชาติจะได้สิทธิ์พำนักในมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลสั่งตั้งคณะกรรมการทบทวนเงื่อนไขโครงการฟอเรสต์ซิตี้ รวมถึงสิทธิ์ของชาวต่างชาติในการเข้าซื้อที่พัก ทำให้ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า มหาเธร์ มีเจตนาที่จะล้มอภิมหาโปรเจ็กต์นี้

แม้ยังยากที่จะคาดเดาว่าคณะกรรมการจะมีข้อเสนอแนะอย่างไร แต่ผลกระทบระยะสั้นที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็คือ รัฐยะโฮร์อาจขึ้นราคาขั้นต่ำสำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาซื้อที่พัก หรือไม่ก็เก็บภาษีเพิ่ม

Yeah Kim Leng อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากวิทยาลัยธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยซันเวย์ เตือนว่า ท่าทีของรัฐบาลมาเลเซียส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวล และบริษัทผู้พัฒนาอาจตัดสินใจระงับหรือลดขนาดโครงการเพื่อบรรเทาความเสี่ยง

ขณะนี้โครงการฟอเรสต์ซิตี้เพิ่งจะสร้างเสร็จเพียงบางส่วน และมีผู้เข้าไปอยู่อาศัยแค่ไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานของโครงการ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าในระยะยาวก็ยังไม่แน่ว่าจะมีคนเข้าไปอยู่อาศัยมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะชาวต่างชาติซึ่งจำเป็นจะต้องขอวีซ่าระยะยาวให้ได้เสียก่อน

อพาร์ตเมนต์ขนาด 1 ห้องในโครงการฟอเรสต์ซิตี้มีสนนราคายูนิตละราวๆ 170,000 ดอลลาร์ (5.57 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าแพงเกินเอื้อมสำหรับชาวมาเลเซียส่วนใหญ่

โฆษกโครงการยืนยันว่า ฟอเรสต์ซิตี้มีส่วนช่วยสร้างงานและกระตุ้นการลงทุนในมาเลเซีย โดยสามารถขายที่พักได้แล้วถึง 18,000 ยูนิต จากทั้งหมด 20,000 ยูนิตที่เปิดให้จับจองเมื่อปลายปีที่แล้ว

ออสมาน ซาเปียน มุขมนตรีรัฐยะโฮร์ ได้ออกมาเชิญชวนชาวต่างชาติให้ตัดสินใจซื้อที่พักในฟอเรสต์ซิตี้โดยไม่ต้องกังวลอะไร เนื่องจากมาเลเซียมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิของนักลงทุนต่างชาติ และเชื่อว่ารัฐบาลกลางจะให้ความเป็นธรรมกับชาวต่างชาติที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในมาเลเซีย

ออสมาน ยืนยันว่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างขึ้นในย่านเกลังปาตาห์ (Gelang Patah) แห่งนี้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจมาเลเซียในภาพรวม และจนถึงขณะนี้รัฐบาลกลางมีรายได้จากการเก็บภาษีนิติบุคคลและค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในโครงการนี้แล้วอย่างน้อย 309 ล้านริงกิต

นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซีย


กำลังโหลดความคิดเห็น