“มหาเธร์” ออกโรงชี้การเฆี่ยนสองสาวเลสเบี้ยนขัด “หลักความเมตตาของอิสลาม”

รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด ของมาเลเซีย ประณามการเฆี่ยนหญิงชาวมุสลิมสองคนฐานพยายามมีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน คำตัดสินที่ก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจและความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อสังคมชาวเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ (แอลจีบีที)

หญิงสองคนนี้ยอมรับความผิดต่อข้อหาภายใต้กฎหมายอิสลามที่ห้ามการร่วมเพศแบบเลสเบี้ยน พวกเธอถูกเฆี่ยนเมื่อวันจันทร์ (3) ต่อหน้าคนหลายสิบที่ศาลชารีอะห์ในตรังกานู รัฐอนุรักษนิยมในภาคตะวันออก นำมาซึ่งเสียงวิจารณ์จากนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งระบุว่าการลงโทษดังกล่าวเป็นการทรมาน

รัฐบาลของมหาเธร์ดูเหมือนจะมีความเห็นแบ่งเป็นสองฝั่งเกี่ยวกับสังคมแอลจีบีที ในขณะที่ตัวนายกรัฐมนตรีเองปิดปากเงียบเรื่องการเฆี่ยนการทำร้ายคนข้ามเพศและชนกลุ่มน้อยหลายครั้งที่ผ่านมาในประเทศมุสลิมแห่งนี้

ในคลิปวีดิโอที่โพสต์บนบัญชีทวิตเตอร์ของเขา มหาเธร์กล่าวว่า การเฆี่ยนดังกล่าว “ขัดต่อหลักความยุติธรรมหรือความเมตตาของศาสนาอิสลาม”

มันเป็นความผิดครั้งแรกของพวกเธอซึ่งควรมีบทลงโทษเบากว่านี้เช่นการให้คำปรึกษา เขากล่าว

“สิ่งนี้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่ออิสลาม” ผู้นำวัย 93 ปี กล่าว “มันเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องแสดงให้เห็นว่า อิสลามไม่ใช่ศาสนาที่โหดร้ายที่บังคับใช้บทลงโทษรุนแรงเพื่อหยามเกียรติผู้อื่น”

สังคมชามแอลจีบีทีถูกข่มเหงเป็นประจำในมาเลเซีย ประเทศที่พวกเขาถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อจารีตนิยม

รัฐบาลของมหาเธร์เข้าสู่อำนาจในเดือนพฤษภาคมหลังจากการรณรงค์วาระปฏิรูป แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าจะจัดการประเด็นเกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ชนกลุ่มน้อยในประเทศหลากเชื้อชาติแห่งนี้

การเฆี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังหลายเหตุการณ์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ที่กลุ่มสิทธิพลเมืองระบุว่าแสดงถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อชาวเกย์และคนข้ามเพศมากขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้ว บาร์เกย์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายศาสนาบุกตรวจค้น ในขณะที่ผู้หญิงข้ามเพศคนหนึ่งถูกกลุ่มคนร้ายทุบตีในเซอเริมบัน ใกล้เมืองหลวง

รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องของศาสนาอิสลามก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งจากสมาชิกพรรครัฐบาลคนอื่นๆ หลังจากเขาสั่งปลดรูปภาพของนักเคลื่อนไหวแอลจีบีที 2 คนออกจากงานแสดงศิลปะงานหนึ่ง

มาเลเซียระบุว่า การมีเพศสัมพันธ์ทางปากและทวารหนักขัดต่อหลักธรรมชาติ กฎหมายพลเมืองกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี เฆี่ยน และปรับเงินผู้กระทำผิด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีการบังคับใช้กฎหมายจริงๆ ก็ตาม

ชาวมุสลิมยังถูกปกครองโดยกฎหมายอิสลามระดับรัฐซึ่งส่วนใหญ่มีบทบัญญัติห้ามการมีเพศสัมพันธ์เพศเดียวกัน