รอยเตอร์ - ญี่ปุ่นยอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีคนงานรายหนึ่งประจำโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวใหญ่และมหันตภัยสึนามิเมื่อกว่า 7 ปีก่อน เสียชีวิตจากการสัมผัสกับกัมมันตภาพรังสี
แผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 สั่นสะเทือนนอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 กระพือสึนามิขนาดยักษ์ถาโถมเข้าใส่เข่นฆ่าชาวบ้านไปราว 18,000 ชีวิต และเป็นต้นเหตุของหายนะทางนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดในโลกนับตั้งแต่เหตุที่เชอร์โนบิล 25 ปีก่อนหน้านั้น
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นรายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์ในวันอังคาร (4 ก.ย.) ว่า กระทรวงสาธารณสุข, แรงงานและสวัสดิการ ได้ข้อสรุปเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ควรต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวชายวัย 50 ปีเศษๆ ที่เสียชีวิตจากมะเร็งปอด
คนงานรายนี้เคยทำงานตามโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น และเคยมาปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ของบริษัท โตเกียว อิเล็กทรอนิก พาวเวอร์ อย่างน้อยๆ 2 ครั้ง นับตั้งแต่โรงงานแห่งนี้เกิดเหตุการณ์แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในเตาปฏิกรณ์หลอมละลาย หลังภัยพิบัติครั้งเลวร้ายมีนาคม 2011
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เผยว่าเขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในเดือนกุมภาพันธ์ 2016
ก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงเคยเผยว่าพบคนงานโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ 4 คน มีอาการป่วยจากการสัมผัสกับกัมมันตภาพรังสี แต่พนักงานรายนี้ถือเป็นรายแรกที่เสียชีวิต
ประชาชนมากกว่า 160,000 ต้องอพยพจากบ้านเรือนของตนเอง หลังเกิดภาวะหลอมละลายที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งนี้
มีคนไข้จำนวนมากต้องถูกอพยพออกจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ และมากกว่า 40 รายในนั้นที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้แล้ว ยังมีผู้เสียชีวิตอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความทุกข์ยากและบาดแผลทางใจที่พวกผู้อพยพต้องประสบนับตั้งแต่นั้น ทั้งจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือที่พักอาศัย แต่ทางรัฐบาลยืนยันว่ากัมมันตภาพรังสีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้