เอเอฟพี – รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของอิตาลี มัตเตโอ ซัลวินี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ประเมินปัญหาที่จะเกิดการผู้อพยพจำนวนมหาศาลน้อยเกินไป และเชื่อมโยงจุดยืนเปิดพรมแดนของเธอกับความรุนแรงทางเชื้อชาติที่สั่นคลอนเมืองเค็มนิทซ์ของเยอรมนี
“ผมจะพูดว่า อังเกลา แมร์เคิล ประมินความเสี่ยงของการปะทะทางสังคมต่ำไปในตอนที่เธออ้างว่ามีที่ว่างสำหรับคนหลายแสนคนในเยอรมนี” ซัลวินี บอกกับ Deutsche Welle สถานีโทรทัศน์สาธารณะของเยอรมนีในการให้สัมภาษณ์เมื่อค่ำวานนี้ (3)
“ผมยังจำสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ในโคโลญปี 2015 และที่อื่นๆ ได้” เขากล่าวเสริม
ผู้หญิงหลายร้อยคนถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยกลุ่มชายชาวแอฟริกาเหนือในคืนนั้นซึ่งสร้างความตกตะลึงทั่วเยอรมนีและเป็นชนวนให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวการตัดสินใจของแมร์เคิลในปีนั้นที่รับผู้แสวงหาที่ลี้ภัยจำนวนมากเข้ามาในช่วงวิกฤตผู้อพยพของยุโรป
อาชญากรรมอื้อฉาวหลายคดีที่ก่อโดยผู้อพยพได้ทำให้กระแสสังคมรุนแรงขึ้น นำไปสู่การผงาดขึ้นมาของพรรคฝ่ายขวาต่อต้านอิสลามอย่าง อัลเทอร์เนทีฟ ฟอร์ เยอรมนี (เอเอฟดี)
ล่าสุด กลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาจัดชุมนุมในเมืองเค็มนิทซ์ทางตะวันออกหลังจากชายชาวเยอรมนีคนหนึ่งถูกแทงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม โดยมีผู้อพยพชาวอิรักเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
ภาพผู้ประท้วงฝ่ายขวาไล่ล่าคนที่ดูเหมือนเป็นชาวต่างชาติในการประท้วงรุนแรงและภาพกลุ่มนีโอนาซีทำท่าเคารพฮิตเลอร์ต่อหน้าแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ
“ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก” ซัลวินี บอกกับ Deutsche Welle “ความรุนแรงนำมาซึ่งความรุนแรง แต่รัฐบาลเยอรมนีประเมินปัญหาดังกล่าวต่ำไปมานานหลายปี และการผงาดขึ้นมาของพรรคเอเอฟดีคือการตอบสนองอย่างชัดเจน”
ซัลวินียึดจุดยืนต่อต้านผู้อพยพนับตั้งแต่พรรคลีคของเขาก่อตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคไฟฟ์สตาร์เมื่อเดือนมิถุนายน
เขาห้ามไม่ให้เรือกู้ภัยผู้อพยพยของเอ็นจีโอเข้าสู่ท่าเรืออิตาลี และกล่าวหาบรัสเซลส์ว่าทอดทิ้งอิตาลี ในขณะที่พวกเขากำลังประสบความยากลำบากในการจัดการกับการมาของผู้อพยพหลายแสนคนนับตั้งแต่ปี 2013