รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - มีรายงานเปิดเผยจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สระบุว่า ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว โดนัลด์ แม็คแกห์น( Donald McGahn) ได้ยอมร่วมมือกับทีมสอบสวนของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ให้ข้อมูลความลับที่ทางทีมสอบสวนไม่เคยรู้มาก่อนในคดีรัสเซียยุ่งการเมืองสหรัฐฯ โดยแม็คแกห์นมีความเกี่ยวข้องในประเด็นว่า ทรัมป์มีความพยายามที่จะไล่มุลเลอร์ออกหรือไม่ และโยงไปถึงข้อหาหนัก ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจขัดขวางกระบวนการทางยุติธรรม
รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(19 ส.ค) ว่า ในการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สวันเสาร์(18) พบว่า ทนายความระดับสูงของทำเนียบขาวยอมให้ความร่วมมือในการสอบสวนกับทีมอัยการพิเศษสหรัฐฯ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ด้วยการเข้าให้ปากคำถึง 3 คำรวมระยะเวลา 30 ชั่วโมง
โดยอ้างแหล่งข่าวจากอดีตและปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว และบุคคลที่ได้รับการรายงานสรุปในเรื่องนี้ พบว่าที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว โดนัลด์ แม็คแกห์น( Donald McGahn) ได้ให้ข้อมูลที่มีบางอย่างในสิ่งที่ทางทีมสอบสวนไม่เคยทราบมาก่อน
ในค่ำวันเสาร์(18) ทนายความของแม็คแกห์นยืนยันการเข้าให้ปากคำกับทีมสอบสวนของมุลเลอร์จริง
“คุณแม็คแกห์นได้ตอบคำถามทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างเต็มที่และสัจจริง” วิลเลียม บัค(William Burck) แถลงพร้อมอธิบายว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้ร้องขอห้ามการเข้าให้ปากคำ
ซึ่งในวันเสาร์(18) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตอ้างว่า เขาเป็นผู้สนับสนุนโดยการอนุญาตให้แม็คแกห์นและเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวน
ในขณะที่ทนายความของทรัมป์ในคดีรัสเซียยุ่งการเมืองสหรัฐฯ รูดี้ จูลิอานี ได้ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ในวันเสาร์(18)ว่า ทีมกฎหมายของทรัมป์นั้นติดต่อกับแม็คแกห์นหลังจากที่เขาถูกสอบปากคำ และชายผู้นี้มีอีเมลที่มีเนื้อหาระบุว่า เขาไม่ได้ให้ข้อมูลที่อาจทำให้เกิด “ความเสียหาย” แก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯเหมือน “กระทำความผิด”
จูลิอานียังย้ำว่า การเข้าให้ความร่วมมือกับมุลเลอร์ของแม็คแกห์นเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ทางกฎหมาย และยังย้ำว่า เชื่อว่าแม็คแกห์นต้องลาออกหากเขาคิดว่าผู้นำสหรัฐฯกระทำผิดกฎหมาย
และจูลิอานียังเชื่อมั่นว่า การเข้าให้ความร่วมมือกับมุลเลอร์ในครั้งนี้ แม็คแกห์นจะไม่กระทำเพื่อมุ่งร้ายต่อทรัมป์ หรือทีมกฎหมายของทรัมป์ และเปิดเผยว่าแม็คแกห์นได้มีข้อตกลงร่วมทางความมั่นคงที่อาจจะต้องสิ้นสุดหากเป็นอื่น
รอยเตอร์รายงานว่า การเข้าให้ปากคำของแม็คแกห์นเกิดขึ้น 3 ครั้ง ระยะเวลา รวม 30 ชั่วโมงในช่วงเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา บรรยายถึงความโกรธของทรัมป์ต่อการสอบสวน และในสิ่งที่ทรัมป์ได้กระตุ้นให้แม็คแกห์นต้องลงมือกระทำ
นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า การยอมให้ความร่วมมือของแม็คแกห์นถือว่า “ไม่ปกติ” ที่อาจเป็นความเคลื่อนไหวต่อการตัดสินใจของทีมกฎหมายทีมแรกของทรัมป์ที่มียุทธศาสตร์ “ยอมให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่” แต่อาจเป็นได้ที่ทางแม็คแกห์นเกรงว่า เขาอาจตกอยู่ในความเสี่ยงทางกฎหมายที่เกิดมาจากการตัดสินใจของทำเนียบขาว ***ที่อาจถูกมองได้ว่าเป็นการขัดความทางกระบวนการทางยุติธรรม***
หนังสือพิมพ์สหรัฐฯเปิดเผยว่า ในการให้ปากคำแม็คแกห์นยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ > “คำพูดของทรัมป์ และการกระทำ” ระหว่างการไล่อดีตผู้อำนวยการ FBI เจมส์ โคมีย์ ออก และความหมกมุ่นของทรัมป์ในการที่จะทำให้ผู้ที่จงรักภักดีต่อเขาเข้าดูแลการสอบสวน และกระตุ้นให้รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เจฟ เซสชันออกมาอ้างถึงการดูแลคดี
นอกจากนี้นิวยอร์กไทม์สชี้ว่า โดนัลด์ แม็คแกห์น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเกี่ยวข้องความพยายามของทรัมป์ที่จะไล่มุลเลอร์ออก
โดยบิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า พบว่า เขาข่มขู่ที่จะลาออกมากกว่าที่จะทำตามคำสั่งทรัมป์ที่จะไล่อัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ออกเมื่อมิถุนายน และพบว่าชายผู้นี้เกี่ยวข้องในความพยายามของทรัมป์หลายครั้งที่พยายามจะควบคุมการสอบสวนคดีรัสเซียยุ่งการเมืองสหรัฐฯ
ทั้งนี้รอยเตอร์ชี้ว่า อย่างไรก็ตามแม็คแกห์นได้เตือนผู้สอบสวนว่า เขาไม่เคยเห็นทรัมป์เคยออกนอกขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย