xs
xsm
sm
md
lg

In Clips: ผู้นำทั่วโลกร่วมไว้อาลัยอดีตเลขาธิการยูเอ็น “โคฟี อันนัน” เสียชีวิตแล้วที่สวิตเซอร์แลนด์ในวัย 80 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(ซ้าย) อดีตผู้นำปาเลสไตน์ ยัสเซอร์ อาราฟัต และ (ขวา) โคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ภาพถูกถ่ายเมือวันที 16 มิ.ย 2001
เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – ผู้นำทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง และ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ต่างไว้อาลัยถึงการจากไปของอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ และเจ้าของรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพ โคพี อานัน ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมในช่วงเช้ามืดวันเสาร์(18 ส.ค) ที่โรงพยาบาลกรุงเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยวัย 80 ปี

DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(18 ส.ค)ว่า การจากไปอย่างกะทันหันของอดีตผู้นำยูเอ็นชาวกานา โคฟี อันนัน ในวันเสาร์(18) สร้างความเสียใจให้กับบรรดาผู้นำชาติต่างๆทั่วโลก

ซึ่งรวมไปถึง อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติคนปัจจุบันได้กล่าวสดุดีถึงอันนันว่าเป็น “แรงชี้นำที่แข็งแกร่งไปในทางที่สร้างสรรค์” และเสริมว่า “ในหลายทาง โคฟี อันนัน ถูกมองว่าเป็นเสมือนองค์การสหประชาชาติ....เขาก้าวขึ้นมาผ่านตำแหน่งต่างๆเพื่อที่จะนำองค์กรในยุคมิลเลเนียม ซึ่งไม่มีใครอาจเทียบได้ทั้งศักดิศรีและความมุ่งมั่น”

ในขณะที่นายกรัฐมนตรีเยอรมัร อังเกลา แมร์เคิล กล่าวถึงอันนันซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์(18) ที่โรงพยาบาลกรุงเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ในวัย 80 ปีว่า อดีตเลขาธิการสหประชาชาติและเจ้าของรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพปี 2001 เป็นแรงบันดาลใจของเธอจากทั้งแนวคิด ความมุ่งมั่น และความเป็นผู้นำของอันนัน

ซึ่งในแถลงการณ์ แมร์เคิลกล่าวว่า เธอรู้สึกหดหู่ต่อการจากไปของอันนัน และชี้ว่าอันนันถือเป็นบุคคลที่หาได้ยากซึ่งได้ทำหน้าที่อุทิศตัวเพื่อประชาคมโลกอย่างแท้จริง

“โคฟี อันนันได้สร้างแรงจูงใจให้กับตัวดิฉันและอีกหลายๆคนด้วยแนวคิดของท่าน ความมุ่งมั่น และความเป็นผู้นำ” และชี้ว่า อันนันได้สร้างคุณูปการต่อองค์การสหประชาชาติในแบบที่แทบไม่มีใครเคยทำมาก่อนหน้า และความพิเศษอีกอย่างในตัวอดีตเลขาธิการยูเอ็นที่อยู่ในความทรงจำของแมร์เคิลคือ เขาสามารถดึงความกระตือรือร้นออกมาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้

ในขณะที่อดีตผู้นำสหรัฐฯผิวสีคนแรก ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กล่าวยกย่องอันนันถึงความกล้าหาญ และความชาญฉลาด โดยชี้ว่า “การนำพาองค์การสหประชาชาติในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ท่านสามารถทำได้ดีในการตระหนักถึงเป้าหมายและจุดประสงค์ขององค์กร ทำให้บทบาทความเป็นกลางขององค์กรมีความแข็งแกร่งในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”

และโอบามากล่าวต่อว่า “ผมขอยกย่องอย่างจริงใจในความกล้าหาญและชาญฉลาดของท่าน ความสามารถในการสร้างความสมดุลในการตัดสินใจถึงแม้จะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ยุ่งยากและฉุกเฉิน”

ส่วนผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานุแอล มาครง ได้กล่าวไว้อาลัยอันนันในฐานะตัวแทนชาวฝรั่งเศสผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “พวกเราจะไม่วันลืมถึงความสงบเยือกเย็นของท่าน และแนวทางความมุ่งมั่น หรือความแข็งแกร่งในจิตวิญญาณความเป็นนักสู้”

และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินได้กล่าวถึงอันนันว่า อดีตเลขาธิการสหประชาชาติเป็นผู้อุทิศตัวให้กับองค์กรอย่างแท้จริง รวมไปถึงความพยายามในการสร้างสันติภาพและการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งปูตินชี้ว่า “รัสเซียจะขอจดจำท่านอันนันไว้ตลอดไป”

สื่อเยอรมันชี้ว่า ที่กานาประเทศบ้านเกิดของอันนัน ประธานาธิบดี นานา อคูโฟ-อัดโด(Nana Akufo-Addo) ประกาศให้ลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยในกานา และสถานที่ทำการทางการทูตทั่วโลก รวมไปถึงประกาศให้จัดการไว้อาลัยแก่อดีตเลขาธิการสหประชาชาติเป็นเวลา 1 สัปดาห์

“ท่านนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศของเราจากการดำรงตำแหน่งและจากการปฎิบัติและคุณสมบัติในเวทีโลก ท่านเชื่อมั่นในศักยภาพของชาวกานาทั้งหญิงและชายในการนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าและรุ่งเรือง” อคูโฟ-อัดโดแถลง

รอยเตอร์รายงานว่า การเสียชีวิตของโคฟี อันนันถูกประกาศออกมาจากมูลนิธิส่วนตัวของเขาในเจนีวาว่า อันนันได้จากไปอย่างสงบในช่วงเช้าวันเสาร์(18) ที่โรงพยาบาลเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ และกล่าวต่อว่า ในช่วงวันท้ายๆของชีวิตอันนันได้อยู่ท่ามกลางบุคคลที่รัก ภรรยาคนที่ 2 Nane และบุตรทั้งสาม อามา ( Ama) โคโจ( Kojo) และนีนา( Nina)

ทั้งนี้พบว่าอันนันดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติถึง 2 สมัย ระหว่างปี 1997 – 2006 ส่วนมูลนิธิของเขาที่ตั้งมานานร่วม 10 ปีสนับสนุนรัฐบาลธรรมาภิบาลและความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมของแอฟริกา

และในปี 2001 โคฟีอันนันและองค์การสหประชาชาติได้รับรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพร่วมกันจากความพยายามในการปฎิรูปองค์กรและให้ความสำคัญปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนเป็นปัญหาสำคัญที่สุด

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงชีวิตการทำงานของอันนันพบว่า เขาถูกตำหนิในฐานะการเป็นผู้นำองค์กรจากการที่ไม่สามารถหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรวันดาช่วงยุค 90 ได้สำเร็จ









กำลังโหลดความคิดเห็น