เอเอฟพี - อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) หลายคน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโส ออกคำแถลงร่วมตำหนิประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กรณีสั่งขึ้นบัญชีดำ จอห์น เบรนแนน อดีตบอสซีไอเอซึ่งวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลออกสื่ออยู่บ่อยๆ
อดีตผู้นำซีไอเอทั้งในรัฐบาลรีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งได้แก่ โรเบิร์ต เกตส์, จอร์จ เทอเน็ต, พอร์เตอร์ กอส, เลียน เพเนตตา และ เดวิด เพเทรอัส ได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกประณาม ทรัมป์ ที่สั่งถอดใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของ เบรนแนน ขณะที่อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองหลายสิบคนก็ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนถ้อยแถลงนี้
“สิ่งที่ประธานาธิบดีทำต่อ จอห์น เบรนแนน รวมไปถึงการข่มขู่อดีตเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับว่าใครสมควรจะมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลลับหรือไม่ แต่เป็นความพยายามปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก” คำแถลงดังกล่าวระบุ
อดีตผู้นำประชาคมข่าวกรองชี้ว่า สิ่งที่ ทรัมป์ ทำนั้น “ไม่เหมาะสม และน่าเสียใจอย่างยิ่ง” พร้อมยืนยันว่า “การเพิกถอนสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับไม่เคยถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเช่นนี้มาก่อน”
เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ และ ไมเคิล เฮย์เดน อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ เป็นอีก 2 คนที่ถูกผู้นำสหรัฐฯ ขู่ถอดใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ และได้ร่วมลงนามในถ้อยแถลงฉบับนี้ด้วย
อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงมักยังมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของรัฐบาล เพื่อจะได้สามารถให้คำแนะนำที่จำเป็นแก่ผู้ซึ่งมารับหน้าที่ต่อ
ทำเนียบขาวอ้างว่า เบรนแนน ซึ่งเป็นผู้นำซีไอเอในยุคของ บารัค โอบามา ถูกลงโทษเนื่องจากแสดงพฤติกรรม “คุ้มดีคุ้มร้าย”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับขณะให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า คำสั่งถอดใบอนุญาตของ เบรนแนน เกี่ยวพันกับกรณีที่ทีมงานของตนกำลังถูกไล่บี้เรื่องสมคบรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2016
“ผมเรียกมันว่า การล่าแม่มดที่น่าละอาย และคนพวกนี้ก็คือตัวการ!” ทรัมป์ กล่าว
“ฉะนั้น ผมเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ควรทำแล้ว”
คำสั่งของ ทรัมป์ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากอดีตเจ้าหน้าที่ระดับบิ๊กหลายคน รวมถึง พล.ร.อ. วิลเลียม แมคแรฟเวน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมภารกิจของหน่วยซีลในการปลิดชีพ อุซามะห์ บินลาดิน เมื่อปี 2011
แมคแรฟเวน ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกลงหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดยกล่าวปกป้อง เบรนแนน ว่าเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยเจอ” และกล่าวหา ทรัมป์ ว่านำ ‘กลยุทธ์ในยุคแมคคาร์ธี’ มาใช้
“คุณทำให้พวกเราต้องอับอายต่อหน้าลูกหลาน, ดูหมิ่นเราต่อหน้าชาวโลก และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ทำให้ประเทศชาติของเราแตกแยก” เขากล่าว
“เพราะฉะนั้น ผมจะถือเป็นเกียรติมากถ้าคุณจะกรุณาถอดใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของผมด้วย ผมจะได้มีชื่อติดอยู่ในกลุ่มชายและหญิงที่กล้าออกมาวิจารณ์การเป็นประธานาธิบดีของคุณ”
พันธมิตรของ ทรัมป์ ในพรรครีพับลิกันยังพยายามออกมาพูดแก้ต่างให้ประธานาธิบดี หรือไม่ก็ปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ออกสื่อ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (17) ทรัมป์ ได้ออกมาพูดเปรยว่าจะถอดใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของ บรูซ โอห์ร (Bruce Ohr) อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งภรรยาของเขาทำงานกับบริษัทซึ่งจัดทำเอกสารกล่าวอ้างว่ารัสเซียมีหลักฐานบางอย่างที่ใช้ข่มขู่ ทรัมป์ ได้
“บรูซ โอห์ร เป็นคนที่น่าอัปยศอดสู ผมคิดว่าจะต้องถอดใบอนุญาตของเขาเร็วๆ นี้แหละ” ทรัมป์ กล่าวกับสื่อมวลชน