xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯสั่งกลุ่ม HNA ของจีน ขายทิ้งตึกระฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ ‘ทรัมป์ ทาวเวอร์’

เผยแพร่:   โดย: กองบรรณาธิการเอเชียไทมส์


(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

US orders China’s HNA to sell skyscraper near Trump Tower
By Asia Times staff
11/08/2018

มีรายงานว่าหน่วยงานของสหรัฐฯซึ่งทำหน้าที่คัดกรองการลงทุนของต่างชาติในอเมริกา ได้สั่งให้กลุ่ม เอชเอ็นเอ ของจีน ขายตึกสูงซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ อาคาร “ทรัมป์ ทาวเวอร์” ในนิวยอร์ก โดยอ้างเหตุผลเรื่องความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ

คณะกรรมาธิการว่าด้วยการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐฯ (Committee on Foreign Investment in the US หรือ Cfius) กลายเป็นข่าวพาดหัวอยู่หลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่รัฐสภาอเมริกันพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเพื่อขยายอำนาจของหน่วยงานนี้ ในการเป็นเครื่องมือคัดกรองการลงทุนของจีนที่เจาะเข้าสู่บรรดาอุตสาหกรรมทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ

มาถึงตอนนี้หน่วยงานที่ประกอบด้วยตัวแทนของกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้องแห่งนี้ กำลังพุ่งเป้าหมายเล่นงานการลงทุนของจีนซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างออกไป กล่าวคือ กรณีที่ เอชเอ็นเอ กรุ๊ป (HNA Group) เครือกิจการที่มีธุรกิจหลายหลากของจีน เข้าไปถือหุ้นใหญ่อยู่ในตึกระฟ้าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ อาคาร “ทรัมป์ ทาวเวอร์” (Trump Tower) ในนครนิวยอร์ก โดยที่ Cfius ระบุว่า เรื่องนี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ

ขณะที่มีรายงานว่า Cfius ยังไม่ได้แจ้งให้ เอชเอ็นเอ ทราบว่าทำไมจึงบังคับให้พวกเขาต้องลดสัดส่วนหุ้นที่ถือครองลงไป แต่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์รัลได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้เมื่อวันศุกร์ (10 ส.ค.) ที่ผ่านมาว่า ผู้เช่าอาคารระฟ้าในย่านแมนแฮตตันซึ่งมีชื่อว่า “850 เธิร์ด เอเวนิว” (850 Third Avenue) แห่งนี้รายหนึ่ง คือ หน่วยตำรวจซึ่งมีภารกิจจัดดำเนินการเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้แก่ฐานในนิวยอร์ก ของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน (ดูเพิ่มเติมรายงานข่าวของวอลล์สตรีทเจอร์นัลได้ที่ https://www.wsj.com/articles/u-s-orders-chinese-company-to-sell-manhattan-building-near-trump-tower-1533917797)

กลุ่มเอชเอ็นเอ เข้าถือครองหุ้นจำนวน 90% ในอาคารดังกล่าวด้วยมูลค่า 463 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ก่อนที่ทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งหลายเดือน

ทางด้านผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกผู้หนึ่งของเอชเอ็นเอ แถลงว่า เวลานี้ยังไม่มีการเข้ายึดหรือการบังคับขายอาคาร 850 เธิร์ด เอเวนิว ไม่ว่าจะในลักษณะของเรื่องซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการหรือในลักษณะของเรื่องที่ยังคารังคาซังอยู่ก็ตามที พร้อมกับบอกว่า “มีข้อเท็จจริงและสภาวการณ์ที่โดดเด่นเฉพาะเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ ซึ่งมิได้ปรากฏอยู่เลยในเวลาที่มีการเข้าซื้อ และอาจทำให้บังเกิดความกังวลบางประการขึ้นมา โดยที่ทางกลุ่มเอชเอ็นเอกำลังดำเนินขั้นตอนต่างๆ ที่ผ่านการพิจารณาแล้ว เพื่อรับมือแก้ไขความกังวลเหล่านี้”

สถานการณ์นี้อาจจะมีลักษณะเฉพาะของมันอยู่ กระนั้นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นคราวนี้ก็สาธิตให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า กระแสการโหมลงทุนในต่างแดนอย่างเมามันของทุนจีนนั้นกำลังถูกบีบคั้นจากทั้งสองด้าน โดยที่ภายในแดนมังกรเอง รัฐบาลจีนก็ได้ใช้มาตรการปราบปรามสิ่งซึ่งถูกระบุว่าเป็นการใช้จ่ายในต่างแดนอย่างสะเพร่าขาดความรอบคอบ

ขณะที่ปักกิ่งยังคงกระตุ้นส่งเสริมการลงทุนที่อยู่ในภาคเทคโนโลยีต่อไป ทว่าการลงทุนในภาคนันทนาการและอสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกจำกัดห้ามปรามไปแล้ว และจากความเคลื่อนไหวของ Cfius คราวนี้ ย่อมเป็นการตอกย้ำว่า ในอีกด้านหนึ่ง พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของสหรัฐฯก็กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อการลงทุนซึ่งมาจากประเทศที่เมื่อเร็วๆ นี้เองเพิ่งถูกคณะบริหารทรัมป์ แขวนป้ายว่าเป็น “คู่แข่งทางยุทธศาสตร์”


กำลังโหลดความคิดเห็น