เอเจนซีส์ - เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งถูกขับออกไปจากสนามบินนานาชาติ ซีแอตเติล ทาโคมา โดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (10 ส.ค.) และถูกเครื่องบินขับไล่ F-15 สองลำบินตามประกบ ก่อนจะไปตกที่เกาะแห่งหนึ่งบริเวณทะเล Puget Sound นอกชายฝั่งรัฐวอชิงตัน
สำนักงานผู้ปกครองเทศมณฑลเพียร์ซแถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ‘ไม่ใช่การก่อการร้าย’
พอล ปาสเตอร์ ผู้ปกครองเทศมณฑลเพียร์ซ ระบุว่า นักบินซึ่งเป็นลูกจ้างวัย 29 ปีของสายการบินแห่งหนึ่งลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว และมีเจตนาฆ่าตัวตาย
“นี่ไม่ใช่การก่อการร้าย ข้อมูลยืนยัน นี่เป็นแผนฆ่าตัวตายของชายคนหนึ่ง เราทราบแล้วว่าเขาเป็นใคร ไม่มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง” สำนักงานผู้ปกครองเทศมณฑลเพียร์ซ แถลงผ่านทวิตเตอร์
สายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์ส ยืนยันว่า เครื่องบินบอมบาร์เดียร์ Q-400 ซึ่งถูกขับออกไปนั้นเป็นของฮอไรซอนแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินน้องในเครือเดียวกัน
สนามบินทาโคมายืนยันว่าไม่มีผู้โดยสารคนอื่นๆ อยู่บนเครื่องที่ถูกขโมย และได้เปิดให้เครื่องบินลำอื่นๆ ขึ้น-ลงได้ตามปกติแล้ว
สำนักข่าว KIRO7 ระบุว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบิน F-15 สองลำไล่ตามเครื่องบินลำนี้ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตก
“เครื่องบิน F-15 ออกติดตามหลังรับแจ้งเหตุแค่ไม่กี่นาที พวกเขาพยายามบังคับให้เครื่องบินลำนั้นพ้นไปจากพื้นที่ซึ่งอาจก่ออันตราย และช่วยให้ผู้คนบนพื้นล่างปลอดภัย” ปาสเตอร์ ยืนยันผ่านทวิตเตอร์
สื่อสังคมออนไลน์ต่างแชร์คลิปวิดีโอเครื่องบินขนาดใหญ่บินอยู่เหนือท้องฟ้านครซีแอตเติล โดยมีเครื่องบิน F-15 ลำหนึ่งไล่ตามไปติดๆ ขณะที่สื่อท้องถิ่นเผยคลิปเพลิงไหม้หลังจากที่เครื่องบินโหม่งโลกบนเกาะเคตรอน (Ketron Island)
เครื่องบินบอมบาร์เดียร์ Q400 เป็นอากาศยานเทอร์โบพร็อปที่ออกแบบมาสำหรับการบินระยะสั้น และสามารถจุผู้โดยสารได้ 76 ที่นั่ง