xs
xsm
sm
md
lg

In Clips : ครอบครัวยืนยัน “ลูกชายบิน ลาดิน” แต่งงานกับลูกสาวคนจี้เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด ตอนนี้อาจหลบในอัฟกานิสถาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มารดาของ อุซามะห์ บิน ลาดิน คือ อาเลีย กาเนม(  Alia Ghanem) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ จากบ้านพักในเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย พบว่าข้างกายเธอยังมีรูปภาพอดีตหัวหน้าก่อการร้ายอัลกออิดะห์ บิน ลาดินประดับ
เอเจนซีส์ - ครอบครัวบิน ลาเดนยืนยันในรายงานพิเศษเดอะการ์เดียน ชี้ว่า ฮัมซา บิน ลาดิน (Hamza bin Laden) บุตรชายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน  แต่งงานกับลูกสาวของหัวหน้าหน่วยเซลจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเมื่อเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 โมฮัมเหม็ด อัตตา (Mohammed Atta)

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(5 ส.ค)ว่า การแต่งงานระหว่างฮัมซา บินลาดิน(Hamza bin Laden)และลูกสาวของโมฮัมเหม็ด อัตตา (Mohammed Atta) ถูกยืนยันโดยพี่น้องชายต่างมารดาของ อุซามะห์ บิน ลาดิน ระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษกับเดอะการ์เดียน

โดยทั้งอาห์หมัด(Ahmad)และฮัสซาน อัล-อัตตาส( Hassan al-Attas) ต่างเชื่อว่า ฮัมซา บินลาดิน (Hamza bin Laden) ได้รับตำแหน่งอาวุโสในเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ของบิดา และมีเป้าหมายเพื่อต้องการแก้แค้นให้กับพ่อที่ถูกลอบสังหารด้วยการถูกยิงระหว่างหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯบุกเข้าไปที่แหล่งหลบซ่อนที่ปากีสถานเมื่อ 7 ปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ "ฮัมซา บิน ลาดิน" เป็นบุตรชายของหนึ่งในภรรยาของบิน ลา ดิน จำนวน 3 คนที่ยังคงมีชีวิต ไคริอาห์ ซาบาร์ (Khairiah Sabar) ผู้ซึ่งอยู่กับสามีของเธอ อุซามะห์ บิน ลาดิน ภายในแหล่งหลบซ่อนที่อับบอตตาบัด( Abbottabad) ใกล้กับที่ตั้งค่ายทหารปากีสถานขนาดใหญ่ในขณะที่บิน ลา ดินเสียชีวิต

ซึ่งพบว่านับตั้งแต่ออกแถลงการณ์ทางสาธารณะเรียกร้องให้สาวกทำสงครามญิฮัดกับวอชิงตัน ลอนดอน ปารีส และเทล อาวีฟ ฮัมซาถูกมองว่าเป็นผู้ช่วยหัวหน้าเครือข่ายอัลกออิดะห์คนปัจจุบัน ไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี ( Ayman al-Zawahiri)

“พวกเราได้ยินว่า เขาแต่งงานกับลูกสาวของโมฮัมเหม็ด อัตตา” อาห์หมัด อัล-อัตตาส (Ahmad al-Attas) กล่าว และเสริมต่อว่า "พวกเราไม่แน่ใจว่าในเวลานี้เขาอยู่ที่ไหน แต่อาจเป็นอัฟกานิสถาน"

สื่ออังกฤษชี้ว่า สำนักงานข่าวกรองชาติตะวันตกเพิ่มความเข้มข้นในการสืบหาแหล่งกบดานของฮัมซา บิน ลาดิน ตั้งแต่ 2 ปีก่อนหน้า และชายผู้นี้ถูกมองว่าเป็นเสมือนบุคคลที่สามารถชักจูงสาวกได้มากกว่าใคร

ซึ่งข่าวการแต่งงานระหว่างฮัมซาและลูกสาวของอัตตาที่มีสัญชาติอียิปต์ ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันได้ดีถึงศิษย์เก่าก่อการร้าย 11 กันยาฯโจมตีตึกเวิลด์เทรดที่ยังหลงเหลืออยู่ และเป็นแกนกลางของกลุ่มอัลกออิดะห์ และเครือข่ายนี้ยังคงทำงานภายใต้เงาความสำเร็จของตัวอดีตหัวหน้า อุซามะห์ บิน ลาดิน 

บุตรชายของบิน ลา ดิน อีกคน คาเลด (Khalid ) ถูกสังหารระหว่างหน่วยกองกำลังสหรัฐฯบุกอับบอตตาบัด ส่วนคนที่ 3 ซาอัด(Saad) ถูกโดรนสังหารในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2009 ซึ่งพบจดหมายที่ถูกเขียนโดยอุซามะห์ บิน ลาดิน  และถูกยึดได้จากแหล่งหลบซ่อนแสดงให้เห็นถึงว่าเขากำลังฟูมฟักฮัมซาให้ขึ้นมาแทนที่ตัวเขา ส่วนหนึ่งเพื่อแก้แค้นให้กับบุตรชายของตัวเอง ซาอัด

ทั้งนี้พบว่าภรรยาทั้งหมดของบิน ลาดิน และบุตรที่ยังคงมีชีวิตเดินทางกลับเข้าไปยังซาอุดีอาระเบียหลังจากนั้น ซึ่งคนเหล่านี้ได้รับที่หลบภัยในประเทศโดยอดีตมกุฎราชกุมารซาอุฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ (Mohammed bin Nayef)

ซึ่งทั้งภรรยาและบุตรทั้งหลายยังคงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับมารดาของ อุซามะห์ บิน ลาดิน คือ อาเลีย กาเนม(  Alia Ghanem) ที่เธอได้ให้สัมภาษณ์กับเดอะการ์เดียนยืนยันว่า "เธอยังคงติดต่อตามปกติกับสมาชิกของครอบครัวที่ยังเหลือ"

“เมื่อพวกเราคิดว่าทุกคนลืมได้แล้ว แต่สิ่งถัดไปที่ผมรู้คือ ฮัมซากล่าวว่า ผมจะแก้แค้นให้กับพ่อของผม” ฮัสซาน อัล-อัสตาสกล่าว และเสริมว่า “ผมไม่ต้องการที่จะต้องผ่านเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว”

และเสริมอีกว่า “หากว่าฮัมซาอยู่ตรงหน้า ผมจะบอกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้านำทางคุณ คิดซ้ำถึงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ อย่าเดินซ้ำรอยพ่อของคุณอีก คุณกำลังเข้าสู่ส่วนที่เลวร้ายและเป็นลบมากๆของจิตวิญญาณตัวเอง”

เดอะการ์เดียนกล่าวว่า ทางครอบครัวอ้างว่า พวกเขาไม่ได้ติดต่อกับอุซามะห์ บิน ลาดิน มาตั้งแต่ปี 1999 จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 2011 และยืนยันว่าไม่ได้ยินข่าวหรือรับการติดต่อจากฮัมซา บิน ลาดินแต่อย่างใด




ฮัมซา บิน ลาดิน (Hamza bin Laden) บุตรชายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน ที่มีข่าวแต่งงานกับลูกสาวหัวหน้าหน่วยเซลจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเมื่อเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 โมฮัมเหม็ด อัตตา (Mohammed Atta)
อาเลีย กาเนม(  Alia Ghanem) และ อาห์หมัด  อัล-อัตตาส (Ahmad al-Attas) พี่น้องชายต่างมารดาของอุซามะห์ บิน ลาดิน


(ที่ 2 จากขวา)อุซามะห์ บิน ลาดิน ในระหว่างการเยือนฟาลุน(Falun) สวีเดน เมื่อปี 1971 รายงานจากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ


กำลังโหลดความคิดเห็น