สื่อจีนย้ำเกมขู่กรรโชกของทรัมป์ไร้ผล คุยมาตรการตอบโต้โชว์วุฒิภาวะปักกิ่ง

รอยเตอร์ – สื่อแดนมังกรชี้มาตรการตอบโต้ของรัฐบาลด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าอเมริกันมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันเสาร์ (4 ส.ค.) สะท้อนการอดกลั้นอย่างเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังเตือนวอชิงตันอีกคำรบว่า วิธีขู่กรรโชกคงใช้ไม่ได้ผลกับจีน

เมื่อคืนวันศุกร์ (3 ส.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงรายชื่อสินค้านำเข้าจากอเมริกาล็อตใหม่ 5,207 รายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจาก 5-25% รวมมูลค่าทั้งสิ้น 60,000 ล้านดอลลาร์ หรือไม่ถึงครึ่งที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอเรียกเก็บภาษี 25% จากสินค้าจีนล่าสุด 200,000 ล้านดอลลาร์

หนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์ของพีเพิลส์ เดลี่ ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ระบุในบทความว่า มาตรการตอบโต้ของปักกิ่งเหมาะสม และจีนจะไม่มุทะลุแข่งขันกับอเมริกาในทางตัวเลข

เดือนกรกฎาคม อเมริกาและจีนเรียกเก็บภาษีสินค้าของกันและกันฝ่ายละ 34,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่า วอชิงตันเตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าเมดอินไชน่าครั้งใหม่อีก 16,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปักกิ่งประกาศแล้วว่า จะตอบโต้ในสัดส่วนเท่ากันทันที

การแสดงความคิดเห็นของสถานีทีวีของรัฐบาลจีนยังระบุว่า มาตรการรุนแรงเกินไปและการขู่กรรโชกของทำเนียบขาวเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกแล้ว และวิธีการเหล่านั้นไม่อาจใช้กับจีนได้

ในวันเสาร์ ทรัมป์ทวิตว่า มาตรการภาษีศุลกากรกำลังผลิดอกออกผลดีกว่าที่คาดกันไว้และกำลังส่งผลลบต่อเศรษฐกิจแดนมังกร โดยอ้างอิงตลาดหุ้นจีนร่วงในช่วงที่ผ่านมา

ผู้นำสหรัฐฯ ยังอ้างว่า ปักกิ่งกำลังหารือกับวอชิงตันเรื่องการค้าโดยไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ และเสริมว่า คณะบริหารจะเดินหน้าใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพื่อกดดันให้ประเทศต่างๆ เจรจาข้อตกลงการค้าที่เป็นธรรมกับอเมริกา

ขณะนี้ จีนบังคับใช้หรือเสนอบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับปริมาณนำเข้าส่วนใหญ่จากอเมริกา โดยปีที่ผ่านมา จีนนำเข้าสินค้าอเมริกันราว 130,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ทรัมป์ขู่รีดภาษีสินค้าจีนกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดจากแดนมังกร

นอกจากนี้ บทความของสำนักข่าวซินหวาของทางการปักกิ่งยังโจมตีว่า อเมริกาใช้วิธีข่มขู่และหลอกลวงซ้ำซากเพื่อบีบให้จีนยอมประนีประนอม ซ้ำยังประเมินอำนาจต่อรองของตัวเองสูงเกินไป แต่ประเมินความเด็ดเดี่ยวและความสามารถของจีนในการปกป้องศักดิ์ศรีของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนต่ำเกินไป

ถึงกระนั้น ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังคงยืนกรานว่า ทรัมป์ได้รับสืบทอดกลไกการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่แรงงานและบริษัทอเมริกันไม่ได้รับการปฏิบัติในแบบต่างตอบแทนและเป็นธรรมจากจีน และทรัมป์ต้องการแก้ไขปัญหานี้

พอมเพโอเสริมว่า ได้หารือประเด็นการค้ากับหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐของจีนเมื่อวันศุกร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ไซฟุดดิน อับดุลเลาะห์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย เผยว่า ได้แจ้งกับพอมเพโอขณะพบกันในสิงคโปร์ว่า กัวลาลัมเปอร์กังวลกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างอเมริกากับจีนมาก

ทั้งนี้ ประเทศต่างๆ อย่างมาเลเซีย เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของผู้ส่งออกจีน ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่า สงครามการค้าอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้หดหายหลายพันล้านดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้