รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันศุกร์ (3 ส.ค.) จากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากำลังผลิตโลกเพิ่มขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกได้แรงหนุนรายงานผลประกอบการบริษัท แม้กังวลสงครามการค้าและตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ไม่เป็นไปตามคาดหมาย ปัจจัยดังกล่าวดันทองคำดีดตัวเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 47 เซ็นต์ ปิดที่ 68.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 24 เซ็นต์ ปิดที่ 73.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานเมื่อวันพุธ (1 ส.ค.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 กรกฎาคม เพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกลับที่คาดหมายไว้
ราคาน้ำมันในวันศุกร์ (3 ส.ค.) ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าสมาชิกโอเปกและประเทศนอกสมาชิกอย่างรัสเซียมีกำลังผลิตสูงขึ้น “กำลังผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวของรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนกรกฎาคม โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 150,000 บาร์เรลต่อวัน” พวกนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาเจบีซี เอเนอร์จีกล่าว ในขณะที่กำลังผลิตของโอเปกเพิ่มขึ้นราว 300,000 ต่อวันในเดือนที่แล้ว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ (3 ส.ค.) จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ ขณะที่นักลงทุนมองข้ามความตึงเครียดทางการค้าและข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดหมายในเดือนกรกฏาคม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 136.42 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,462.58 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.13 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,840.35 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.33 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,812.02 จุด
จีนยกระดับข้อพิพาททางการค้า แถลงมาตรการตอบโต้รอบใหม่ กำหนดรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 5,207 รายการ วงเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ก๊าซธรรมชาติเหลวไปจนถึงเครื่องบินบางรุ่น ความเคลื่อนไหวตอบโต้คำขู่ของวอชิงตันเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ที่บอกว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจากเดิม 10% เป็น 25%
ขณะเดียวกันรายงานจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯระบุว่าเศรษฐกิจของประเทศ มีการจ้างงานเพิ่มเติม 157,000 อัตราในเดือนกรกฎาคม ผิดจากที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 190,0000 อัตรา แต่ตัวเลขคนว่างงานกลับลดลงเล็กน้อยสู่ 3.9%
อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทต่างๆ โดยตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลจนถึงตอนนี้ที่ใกล้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเผยแพร่รายงานไตรมาส 2 พบว่า จาก 406 บริษัทในเอสแอนด์พี 500 ที่รายงานผลดำเนินงานออกมาแล้ว มีถึง 78.6% ที่มีผลประกอบการเหนือกว่าตลาดคาดหมายไว้
ตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันศุกร์(3ส.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์