เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันศุกร์(20ก.ค.) ยังได้แรงหนุนจากคำแถลงของซาอุดีอาระเบียที่คาดหมายว่าจะลดกำลังผลิตในเดือนสิงหาคม ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำดีดตัว หลังทรัมป์ ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนให้ถึง 500,000 ล้านดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 49 เซ็นต์ ปิดที่ 73.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันในวันศุกร์ เป็นไปตามความเคลื่อนไหวเมื่อวันพฤหัสบดี(19ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งซึ่งบอกว่าประเทศของเขาจะลดการส่งออกน้ำมันดิบในเดือนหน้า ในความพยายามขจัดอุปทานล้นความต้องการ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(20ก.ค.) ปิดลบเล็กน้อย จากคำขู่รีดภาษีสินค้านำเข้ารอบใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่ผู้นำรายนี้ยังเดินหน้าโจมตีนโยบายดอกเบี้ยของเฟดอย่างไม่ลดราวาศอก
ดาวโจนส์ ลดลง 6.38 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,058.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.66 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,801.83 จุด แนสแดค ลดลง 5.10 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,820.20 จุด
แม้รายงานผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่ยังไม่ออกมา แต่เชื่อว่าบริษัทต่างๆอยู่บนเส้นทางของการมีผลดำเนินงานไตรมาส 2 ดีขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราว 20%
อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีทตกอยู่ในความกังวล จากกรณีที่ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่าเขามีความตั้งใจขยายความขัดแย้งทางการค้ากับจีน ด้วยการรีดภาษีเพิ่มเติมสินค้าทุกชนิดที่นำเข้ามาในสหรัฐฯ วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์
"ผมพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ ผมไม่ได้ทำสิ่งนี้เพราะเล่นการเมือง แต่ผมกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับประเทศของเรา เราได้ถูกจีนเอาเปรียบมานานแล้ว" เขากล่าว "ผมไม่ต้องการทำให้พวกเขากลัว และผมชอบท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจริงๆ แต่เราก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม"
ทั้งนี้ วงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าวเทียบเท่ากับวงเงินสินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่า 5.055 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่สหรัฐฯส่งออกสินค้าไปยังจีนคิดเป็นมูลค่าเพียง 1.299 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความ กล่าวหาว่า จีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ "จีนและสหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ ได้ทำการปั่นค่าเงิน และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สหรัฐฯกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดอลลาร์กำลังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน ทำให้สหรัฐสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของเฟดอีกครั้งหนึ่ง "สหรัฐฯไม่ควรถูกทำโทษเพราะเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี การขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราได้ทำ สหรัฐควรได้รับโอกาสในการรับสิ่งที่สูญเสียไปจากการที่ประเทศอื่นปั่นค่าเงิน และทำข้อตกลงที่เอาเปรียบสหรัฐฯ" ข้อความในทวีตเตอร์ระบุ
การทวีตข้อความดังกล่าว ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเฟดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วันของปธน.ทรัมป์ ซึ่งมันกระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำปิดบวกแรงในวันศุกร์(20ก.ค.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์