เอเจนซีส์ – ทรัมป์บินกลับวอชิงตัน ท่ามกลางเสียงประณามจากทั้งเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง นักการเมืองเดโมแครต รวมถึงสมาชิกอาวุโสรีพับลิกัน ชี้การที่ประมุขทำเนียบขาวเออออห่อหมกกับปูตินเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกาเป็นความอัปยศอดสูและแย่พอๆ กับการ “ขายชาติ”
จอห์น แมกเคน สมาชิกอาวุโสรีพับลิกัน ชี้ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับการปฏิเสธของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นจุดตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และซัมมิตที่เฮลซิงกิระหว่างทั้งคู่เป็นความผิดพลาดที่น่าสลด ไม่เคยมีผู้นำสหรัฐฯ คนใดเคยอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างน่าสังเวชต่อหน้าผู้นำเผด็จการแบบนี้มาก่อน
แดน โคตส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ตอบโต้ทรัมป์ว่า หน่วยงานข่าวกรองของอเมริกามีความชัดเจนและอิงกับข้อเท็จจริงในการประเมินว่า มอสโกแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสองปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการประเมินที่ทรัมป์ไม่ยอมรับระหว่างการประชุมสุดยอดกับปูตินที่เฮลซิงกิเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ค.) โคตส์สำทับว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังความพยายามอย่างแพร่หลายและต่อเนื่องในการบ่อนทำลายประชาธิปไตยของอเมริกา
เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติก่อนหน้าโคตส์ ประณามว่า การคล้อยตามปูตินของทรัมป์เป็นการยอมจำนนอย่างเหลือเชื่อ ด้านจอห์น เบรนแนน อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) บอกว่า การกระทำของผู้นำสหรัฐฯ แย่พอๆ กับการขายชาติ
ทั้งนี้ ทรัมป์ทำให้ทั้งมิตรและศัตรูทางการเมืองในบ้านเกิดอ้าปากค้างด้วยคำตอบต่อคำถามเกี่ยวกับการเจาะระบบและการแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2016 ที่ตัวเขาเองเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต และเข้าสู่ทำเนียบขาวว่า “ปูตินบอกว่าไม่ใช่รัสเซีย และผมก็ไม่เห็นเหตุผลว่า ทำไมรัสเซียจะต้องทำแบบนั้น”
คำตอบนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อ 3 วันก่อนกระทรวงยุตธรรมสหรัฐฯ เพิ่งฟ้องชาวรัสเซีย 12 คนข้อหาเจาะระบบข้อมูลของเดโมแครต ซึ่งเป็นการดำเนินการระลอกล่าสุดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ นับจากปลายปี 2016 เพื่อตอบโต้สิ่งที่หน่วยข่าวกรองระบุว่า เป็นแผนการที่ครอบคลุมในการสนับสนุนให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ซึ่งปูตินเป็นคนสั่งการ
ทรัมป์ย้ำว่า “ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากในเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของเรา แต่วันนี้ประธานาธิบดีปูตินปฏิเสธอย่างเข้มแข็งและทรงพลังมาก” ทรัมป์ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอของปูตินในการส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนรัสเซียร่วมสอบสวนคดีฟ้องร้องชาวรัสเซีย 12 คนกับคณะอัยการสหรัฐฯ
แม้แต่นักการทูตบางคนยังกังวลกับการแถลงข่าวดังกล่าว บิลล์ เบิร์นส์ อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศและเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำรัสเซีย พูดไม่อ้อมค้อมว่า เคยเห็นผลงานของประธานาธิบดีบนเวทีโลกมาหลายคน แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีผู้นำคนไหนทำให้ตกตะลึงได้เท่าทรัมป์อีกแล้ว
นักการเมืองจากทั้งรีพับลิกันและเดโมแครต หรือกระทั่งฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายทีวีที่ปกติแล้วสนับสนุนอดีตนักธุรกิจวงการอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้ พร้อมใจประณามทรัมป์
พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน พรรคเดียวกับทรัมป์ชี้ว่า ทรัมป์ต้องยอมรับว่า รัสเซียไม่ใช่พันธมิตร แต่ยังคงเป็นปรปักษ์ของอเมริกาทั้งในแง่ค่านิยมและอุดมคติ ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกอาวุโสจากรีพับลิกัน วิจารณ์ว่า รัสเซียจะตีความคำตอบของทรัมป์เป็นสัญญาณความอ่อนแอ
ก่อนร่วมประชุมสุดยอด ทรัมป์ที่กระตือรือร้นผูกสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับประมุขเครมลิน ยังกล่าวหา “ความโง่เขลา” ของประธานาธิบดีอเมริกันคนก่อนๆ รวมทั้งการจัดฉากล่าแม่มดในขณะนี้เป็นสาเหตุทำให้สัมพันธภาพกับรัสเซียตกต่ำรุนแรง ซึ่งปรากฏว่า กระทรวงต่างประเทศรัสเซียทวิตตามมาทันทีว่า “เราเห็นด้วย”
เจฟฟ์ เบล็ก วุฒิสมาชิกรีพับลิกันและเป็นขาประจำวิพากษ์ทรัมป์ระบุว่า ถ้อยคำดังกล่าวน่าอดสู และไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะได้เห็นวันที่ประธานาธิบดีอเมริกันขึ้นเวทีเคียงข้างประธานาธิบดีรัสเซีย และโทษประเทศของตัวเองสำหรับความก้าวร้าวของรัสเซีย
ด้านน้ำเสียงจากฝั่งเดโมแครตรุนแรงกว่าอย่างชัดเจน โดยทาง ชัค ชูเมอร์ วุฒิอาวุโส โจมตีว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เคียงข้างประธานาธิบดีปูติน ต่อต้านการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่กลาโหมและหน่วยข่าวกรองอเมริกัน ถือเป็นผู้นำที่เลินเล่อ อันตราย และอ่อนแอ
จิมมี่ โกเมซ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า การเข้าข้างปูตินและคัดค้านข่าวกรองสหรัฐฯ น่ารังเกียจ และการล้มเหลวในการปกป้องอเมริกาถือว่า ทรยศต่อชาติ อดัม ชิฟฟ์ สมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาล่าง สำทับว่า ทรัมป์กำลังให้ไฟเขียวปูตินในการแทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมในปีนี้
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิก แรนด์ พอล จากพรรครีพับลิกัน ปกป้องทรัมป์ว่า เห็นด้วยกับประธานาธิบดีเรื่องที่ว่าวงการข่าวกรองสหรัฐฯ เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีอคติ ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ทรัมป์จะพบกับสมาชิกรัฐสภาในวันอังคาร (17 ก.ค.) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
ถ้อยคำของทรัมป์ที่กล่าวกับปูตินอย่างอบอุ่น ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับในที่ประชุมนาโตสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อถูกถามว่า ปูตินเป็นศัตรูหรือไม่ ผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่า มองปูตินเป็นคู่แข่งที่ดี นอกจากนี้ ทรัมป์ยังไม่วิจารณ์เรื่องที่รัสเซียเข้าผนวกไครเมียจากยูเครนในปี 2014 อย่างเปิดเผย
ทางฝ่ายปูตินมีการพูดถึงความสำคัญในการที่สองประเทศร่วมมือกันและยกย่องทรัมป์ เมื่อถามว่า ตอนที่อเมริกาเลือกตั้งสองปีที่แล้ว อยากให้ทรัมป์ชนะหรือไม่ ผู้นำรัสเซียตอบว่าอยาก แต่ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงอย่างที่ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ นอกจากเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงภายในประเทศแล้ว ท่าทีของทรัมป์ยังสร้างความกังวลและไม่พอใจในหมู่พันธมิตรของสหรัฐฯ อาทิ ไฮโก มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ที่บอกว่า ยุโรปคงเชื่อใจอเมริกาไม่ได้อีกต่อไป