xs
xsm
sm
md
lg

นักประดาน้ำหนึ่งในทีมช่วยชีวิต'13ทีมหมูป่า' ได้รับการต้อนรับ'เยี่ยงวีรบุรุษ'ที่สนามบินไอร์แลนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไอริชไทมส์ - นักประดาน้ำชาวเบลเยียมคนหนึ่ง ซึ่งมีถิ่นพำนักในเมืองเอนนิส ไอร์แลนด์ ได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ ณ สนามบินแชนนอน หลังเป็นหนึ่งในทีมกู้ภัยนานาชาติที่ช่วยเหลือนักเตะเยาวชนไทย 12 คนและโค้ชออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

หนังสือพิมพ์ไอริชไทมส์ รายงานว่าในตอนเช้าวันศุกร์(13ก.ค.) ที่สนามบินแชนนอน ไอร์แลนด์ นายจิม วาร์นีย์ พลเมืองเบลเยียม ได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษจากฝูงชนราว 100 คนที่พร้อมใจกันปรบมือและส่งเสียงเชียร์ ตอนที่เขาเดินผ่านประตูของอาคารขาเข้า

นายวาร์นีย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยมีเอเชีย มาเนีย คู่หมั้นและเรเน บิดา ยืนขนาบข้าง ว่า "เราไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์มันจะออกมาดีแบบนี้ มันเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่น่าทึ่งจริงๆ ทุกคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง(ในปฏิบัติการกู้ภัย)และเด็กๆได้กลับบ้านไปหาครอบครัว"




อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่ารู้สึกหวานอมขมกลืนที่จ่าเอกสมาน กุนัน อดีตนาวีซีลของไทย "ไม่ได้กลับบ้านเหมือนนคนอื่นๆ" พร้อมระบุว่า "ฮีโร่ที่แท้จริงของปฏิบัติการนี้ก็คือเด็กๆที่ต้องอดทนมากกว่าเรา"

รายงานข่าวระบุว่านายวาร์นีย์เป็นส่วนหน้าของปฏิบัติการช่วยเหลือที่นำโดยกลุ่มนักประดาน้ำถ้ำอังฤษ และยืนยันว่าเขาเป็นคนที่พาเด็กบางส่วนออกมาจากถ้ำ

วาร์นีย์บอกว่าสภาพแวดล้อมภายในถ้ำนั้นยากลำบากมาก "เพราะว่าคุณต้องแบกความรับผิดชอบชีวิตมนุษย์ไว้บนบ่าด้วย"

ชายชาวเบลเยียมรายนี้เล่าว่าเขาได้รับการร้องขอเมื่อวันศุกร์ที่แล่้ว และหลังจากโทรศัพท์ปรึกษากับคู่หมั้นและครอบครัวแล้ว เขาก็รีบบินไปเมืองไทยในตอนเช้าวันเสาร์(7ก.ค.) "มันเป็นปฏิบัติการขนานใหญ่ มีทีมช่วยเหลือมากกมายจากทั่วทุกมุมโลก ประชาชนคนไทยทุ่มเทอุทิศสรรพกำลังกันอย่างเต็มที่ พวกเขาเป็นประเทศที่สวยงามและเป็นมิตร"

ในกรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในถ้ำหลวงฯ นายวารนีย์บอกว่า "ใชคดีมาก โดยเฉพาะทีมเราเคยชินกับสภาพแวดล้อมแบบนี้จากงานอดิเรกของเรา พวกเขาสามาถจัดการกับความเสี่ยงและความเครียด และทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นจนจบ"

เขาบอกว่า "สภาพภายในถ้ำรุนแรงมาก วิสัยทัศน์แบบเป็นศูนย์ หลายจุดน้ำไม่ท่วม เราต้องทั้งดำน้ำ เดิน และว่ายน้ำ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมต้องมีหลายทีมบริเวณส่วนต้นๆของถ้ำและเพื่อให้เราส่งมอบตัวเด็กๆ"

อย่างไรก็ตาม วาร์นีย์ บอกว่าเราไม่รู้สึกว่าชีวิตตนเองตกอยู่ในความเสี่ยงเลย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนๆของปฏิบัติการช่วยเหลือ "การดำน้ำในถ้ำหรือเข้าถ้ำเป็นอะไรที่ผมทำในทุกๆสัปดาห์ มันเป็นกิจกรรมที่มีความอันตรายสูง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมต้องฝึกฝนอยู่ตลอด เราทำมันมาหลายปีมาก และเราสามารถจัดการกับความเสี่ยงและความตึงเครียด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสุดในการพาตัวเด็กออกมา"

ทั้งนี้ วาร์นีย์ ได้บรรยายถึงความรู้สึกตอนที่เด็กชุดแรกถูกพาตัวออกจากถ้ำว่า "มันคือความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ ทั้งทีมทำงานร่วมกัน ใบหน้าของแต่ละคนมีความสุขมาก เรามุ่งเน้นความถูกต้องจนกระทั่งท้ายสุด จนกระทั่งคนสุดท้ายถูกพาตัวออกจาถ้ำ และจากนั้นทุกคนก็มีความสุุขอย่างที่สุด"


กำลังโหลดความคิดเห็น