xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯส่งเรือพิฆาต 2 ลำแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน ขณะสายสัมพันธ์วอชิงตัน-ปักกิ่ง ‘ตึงเครียด’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i>(ภาพจากแฟ้ม) ยูเอสเอส มัสทิน เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นอาร์ลีจ์ เบิร์ค ของสหรัฐฯ หนึ่งใน 2 เรือรบสหรัฐฯซึ่งแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (7 ก.ค.) </i>
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เรือรบอเมริกัน 3 ลำแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (7 ก.ค.) ในเที่ยวการเดินทางซึ่งทางการไทเปน่าจะมองว่าเป็นการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณให้ความสนับสนุน ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มทวีขึ้นระหว่างสหรัฐฯกับจีน

“เรือของนาวีสหรัฐฯ 2 ลำ ได้เดินทางตามปกติโดยผ่านน่านน้ำสากลของช่องแคบไต้หวันเมื่อวันที่ 7-8 กรกฎาคม (เวลาท้องถิ่น) นาวาเอกชาร์ลี บราวน์ ผู้ทำหน้าที่โหษกให้กองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ ระบุในคำแถลง

“เรือของนาวีสหรัฐฯแล่นระหว่างทะเลจีนใต้กับทะเลจีนตะวันออกโดยผ่านช่องแคบไต้หวัน และก็ได้กระทำเช่นนั้นมาหลายปีแล้ว” บราวน์บอก

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายเปิดเผยโดยขอให้สงวนนามว่า เรือรบอเมริกัน 2 ลำดังกล่าวนี้คือ เรือพิฆาตยูเอสเอส มัสทิน และเรือพิฆาตยูเอสเอส เบนโฟลด์

ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันยืนยันชื่อของเรือรบ 2 ลำนี้ และบอกด้วยว่าได้แล่นเข้าสู่ช่องแคบซึ่งเป็นทางน้ำที่แบ่งแยกเกาะไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่จีนออกจากกันนี้ เมื่อตอนเช้าวันเสาร์ (7) โดยมุ่งหน้าแล่นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

“ฝ่ายทหารกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง และมีความมั่นใจตลอดจนมีความสามารถในการธำรงรักษาเสถียรภาพของภูมิภาค รวมทั้งพิทักษ์ปกป้องความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติ” คำแถลงของกระทรวงระบุ

วอชิงตันนั้นไม่ได้มีสายสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไทเป แต่สหรัฐฯก็มีกฎหมายซึ่งผูกพันให้อเมริกาต้องช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันตัวเอง รวมทั้งสหรัฐฯยังเป็นแหล่งที่มาหลักของอาวุธของเกาะแห่งนี้ ขณะที่จีนนั้นถือว่าไต้หวันเป็นมณฑลก่อกบฏของตนและยืนยันจะต้องนำเอาเกาะแห่งนี้กลับมารวมกับแผ่นดินใหญ่ให้ได้แม้กระทั่งจะต้องใช้กำลังทหาร โดยที่ปักกิ่งพูดอยู่เป็นประจำว่าไต้หวันคือประเด็นอ่อนไหวที่สุดในสายสัมพันธ์ที่ตนมีอยู่กับสหรัฐฯ

การเดินเรือผ่านช่องแคบไต้หวันครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเรือในสังกัดกองทัพเรือสหรัฐฯในรอบระยะเวลาประมาณ 1 ปี บังเกิดขึ้นหลังจากจีนได้ทำการฝึกซ้อมทางทหารต่อเนื่องเป็นชุดในน่านน้ำรอบๆ เกาะไต้หวัน

ทางด้านโกลบอลไทมส์ หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ ในเครือของเหรินหมินรึเป้า ปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการในฉบับวันอาทิตย์ (8) ระบุว่า จีนควรรักษาความสุขุมเอาไว้ โดยไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้เรียกว่าเป็น ยุทธวิธีทางจิตวิทยาของสหรัฐฯ
<i>(ภาพจากแฟ้ม) ยูเอสเอส เบนโฟลด์ เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้นอาร์ลีจ์ เบิร์ค ของสหรัฐฯ (ลำหน้า) ก็เป็นเรือรบอเมริกันอีกลำหนึ่งซึ่งแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (7 ก.ค.) </i>
ความเคลื่อนไหวของเรือรบอเมริกันคราวนี้ ยังเกิดขึ้นขณะที่เกิดศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งทำท่าว่าอาจลากยาวไปอย่างยืดเยื้อ โดยยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าประเทศเจ้าของเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลก 2 รายนี้จะเจรจาหารือกันเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

สำนักข่าวรอยเตอร์เป็นสื่อรายแรกที่รายงานเอาไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดส่งเรือรบแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยที่มีการพูดถึงการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินด้วยซ้ำ ทว่าในที่สุดแล้วก็ไม่ได้ทำตามทางเลือกดังกล่าว ซึ่งบางทีอาจจะด้วยความกังวลว่าจะทำให้จีนโกรธเกรี้ยว

ครั้งสุดท้ายที่มีเรือบรรทุกเครื่องสหรัฐฯแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันคือเมื่อปี 2007 ในสมัยคณะบริหารของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯบางคนเชื่อว่าการใช้เรือบรรทุกเครื่องบินแล่นผ่านเช่นนั้นเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต

ในช่วงหลังๆ มานี้ สหรัฐฯได้แสดงท่าทีปลอบโยนเอาอกเอาใจไต้หวัน ตั้งแต่การจัดพิธีเปิดที่ทำการใหม่ของสำนักงานซึ่งมีฐานะเป็นสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในไต้หวันในทางพฤตินัย ไปจนถึงการออกรัฐบัญญัติการเดินทางไปไต้หวัน ซึ่งมีเนื้อหากระตุ้นส่งเสริมให้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกันเดินทางไปเยือนเกาะแห่งนี้ เหล่านี้ล้วนแต่ยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งกับไทเปบานปลายขยายตัว

มีรายงานว่าระหว่างที่รัฐมนตรีกลาโหม จิม แมตทิส ของสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ได้หยิบยกประเด็นเรื่องไต้หวันขึ้นมาหารือกับฝ่ายจีนด้วย

ด้าน อับราฮัม เดนมาร์ก อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมดูแลเอเชียตะวันออก ในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา แสดงความเห็นว่า การที่สหรัฐฯส่งเรือรบแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเช่นนี้ เป็นการสาธิตให้เห็นว่าอเมริกายังคงสนับสนุนไต้หวัน ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงความตั้งใจของอเมริกาที่จะสำแดงสิทธิในการเดินเรือในดินแดนชายขอบของจีน

ฝ่ายจีนก็ได้ทำให้ไต้หวันระแวงภัย ด้วยการเพิ่มการฝึกทางทหารอย่างคึกคักในปีนี้ โดยมีทั้งการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดและอากาศยานทางทหารอื่นๆ ไปบินรอบๆ เกาะไต้หวัน ตลอดจนส่งเรือบรรทุกเครื่องบินของตนแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน

จีนแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อไต้หวันเพิ่มขึ้นมากนับแต่ที่ ไช่ อิงเหวิน ซึ่งมาจากพรรคเดโมเครติก โปรเกรสสีฟ ปาร์ตี้ (ดีพีพี) ที่มีแนวทางต้องการให้ไต้หวันแยกตัวเป็นเอกราช ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของเกาะแห่งนี้ในปี 2016

ในอีกด้านหนึ่ง เหลียน จ้าน อดีตรองประธานาธิบดีของไต้หวัน ซึ่งสังกัดพรรคก๊กมิ่นตั๋งที่มีแนวทางนิยมจีน ก็มีกำหนดจะเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์หน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น