รอยเตอร์ - สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่นจะทรงงดเว้นจากการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ หลังจากที่ทรงมีพระอาการเวียนพระเศียรและคลื่นไส้เนื่องจากพระโลหิตไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ (cerebral anemia) สำนักพระราชวังอิมพีเรียลแถลงวันนี้ (2 ก.ค.)
สมเด็จพระจักรพรรดิซึ่งมีพระชนมายุ 84 พรรษา ทรงประกาศจะสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสในวันที่ 30 เม.ย.ปีหน้า ถือเป็นการสละบัลลังก์ของจักรพรรดิญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบเกือบ 200 ปี หลังจากที่พระองค์และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะได้ทรงใช้เวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมาเยียวยาความสูญเสียที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ก่อขึ้นเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สำนักพระราชวังอิมพิเรียลแถลงว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้วินิจฉัยว่าสมเด็จพระจักรพรรดิประชวรด้วยพระโรคสมองขาดเลือด หลังจากที่ทรงอาเจียนและเวียนพระเศียรบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ คณะแพทย์จะเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด ระหว่างที่ประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ ณ พระราชวังอิมพิเรียลในกรุงโตเกียว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะพระราชทานพระราชวโรกาสให้เจ้าหญิงอายาโกะ พระธิดาในเจ้าชายทากามาโดะซึ่งเป็นพระราชภาดาของสมเด็จพระจักรพรรดิ เข้าเฝ้าฯ ในวันนี้ (2) เพื่อกราบทูลเรื่องที่เจ้าหญิงได้ทรงประกาศหมั้นหมายกับชายสามัญชนวัย 32 ปี
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะซึ่งทรงเคยเข้ารับการผ่าตัดพระหทัยและรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ตรัสไว้เมื่อปี 2016 ว่า ทรงเกรงว่าพระชนมายุที่มากขึ้นจะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน และมีพระราชประสงค์ที่จะสละบัลลังก์ให้แก่เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารซึ่งมีพระชนมายุ 58 พรรษาในเวลานี้
รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นกำหนดสถานะของพระจักรพรรดิว่าทรงเป็น “สัญลักษณ์แห่งรัฐและความเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน” ทว่าไม่ทรงมีอำนาจในทางการเมือง