รอยเตอร์ – ทำเนียบขาวระบุ กษัตริย์ซาอุฯ ให้สัญญา ถ้าจำเป็นก็พร้อมเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ชี้มีกำลังการผลิตสำรองได้อีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่ใช่ตกลงเพิ่มกำลังผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวันตามทวิตของทรัมป์ ด้านอิหร่านกล่าวหาวอชิงตันพยายามใช้ความกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อปลุกปั่นให้คนอิหร่านต่อต้านรัฐบาล รวมทั้งยังรวมหัวกับซาอุฯ ปั่นราคาน้ำมัน ซึ่งถือว่า ละเมิดหลักการพื้นฐานของโอเปก
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ (30 มิ.ย.) ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หารือกับสมเด็จพระราชาธิบดีซาลมาน บิน อับดุลลาซิส อัล ซาอุด ทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ (29 มิ.ย.) ว่าตลาดน้ำมันอาจต้องการอุปทานเพิ่ม และกษัตริย์ซาอุฯ ก็แสดงความพร้อมเพิ่มกำลังผลิตหากจำเป็น ยืนยันมีกำลังการผลิตสำรองไว้ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) ซึ่งจะใช้อย่างระมัดระวังและเมื่อจำเป็น เพื่อรับประกันว่า ตลาดน้ำมันมีความสมดุล
แหล่งข่าวที่รับรู้แผนการผลิตของซาอุฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า ทางการซาอุฯ มีความตั้งใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือนนี้ ทำให้ตัวเลขการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าในเดือนมิถุนายนที่ผลิต 10.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ซาอุฯ มีกำลังผลิตแบบยั่งยืนสูงสุด 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ไม่เคยทำการผลิตถึงระดับนั้นมาก่อน
อมฤตา เซน จากบริษัทที่ปรึกษา อิเนอร์จี แอสเป็กต์ส สำทับว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อมูลเชิงทฤษฎี และการเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังยังต้องใช้ทั้งเงินทุนและเวลาซึ่งอาจนานถึง 1 ปี
เมื่อวันที่ 22 เดือนที่ผ่านมา ซาอุฯ รวมถึงประเทศที่เป็นและไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งรวมถึงรัสเซีย เพิ่งจะตกลงเพิ่มกำลังผลิตรวม 700,000 – 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
แถลงการณ์ของทำเนียบขาวยังตัดส่วนที่ทรัมป์ทวิตไว้ในวันเดียวกันว่า หลังจากอธิบายถึงความวุ่นวายในอิหร่านและเวเนซุเอลา ในที่สุดประมุขซาอุฯ ก็ตกลงผลิตน้ำมันเพิ่ม ซึ่งอาจสูงถึง 2 ล้านบาร์เรลตามที่ตนขอร้อง
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุทางทวิตเตอร์ว่า ปริมาณการผลิตเพิ่มเติมจากริยาดห์จะช่วยชดเชยอุปทานที่ลดลงจากอิหร่าน อันสืบเนื่องมาจากการที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อเดือนพฤษภาคมและฟื้นมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันมาใช้กับอิหร่านอีกครั้ง
ทรัมป์ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่า ตัวเลข 2 ล้านบาร์เรลที่เพิ่มขึ้นเป็นปริมาณการผลิตต่อวันหรือไม่ แต่ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกขณะนี้สูงเกือบ 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทางด้านสื่อของทางการซาอุฯ รายงานว่า ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ ทรัมป์และกษัตริย์ซาอุฯ ได้เน้นย้ำความจำเป็นในการปกป้องเสถียรภาพตลาดน้ำมัน และความพยายามของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการชดเชยหากเกิดการขาดแคลน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพาดพิงถึงความตั้งใจของริยาดห์ในการเพิ่มกำลังผลิต 2 ล้านบีพีดี และเจ้าหน้าที่น้ำมันซาอุฯ ก็ไม่ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้
เมื่อวันศุกร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ซื้อขายอยู่แถวๆ 79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า ราคาน้ำมันจะยังคงแข็งตัวในตลาดปีนี้ เนื่องจากอุปทานติดขัดในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงลิเบียและเวเนซุเอลา และการเพิ่มกำลังผลิตของโอเปกไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้
คาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุฯ มีกำหนดหารือกับ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ในวันพฤหัสบดีนี้ (5 ก.ค.) ที่วอชิงตันเพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน
ปัจจุบัน คณะบริหารของทรัมป์กำลังผลักดันให้ประเทศพันธมิตรทั้งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลางยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งอเมริกาจะเริ่มมาตรการแซงก์ชันเพื่อกดดันให้เตหะรานยอมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ใหม่ โดยอาจมีการพิจารณายกเว้นเป็นกรณีไปเพื่อลดผลกระทบจากการลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน
ในวันเสาร์ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวหาว่า วอชิงตันกำลังพยายามใช้ความกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อปลุกปั่นให้ชาวอิหร่านต่อต้านรัฐบาล มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ 6 คนเคยพยายามใช้วิธีนี้มาก่อน แต่ก็ต้องล้มเลิกในที่สุด
นอกจากนั้น ฮอสเซน คาเซมปูร์ อาร์เดบิลี ผู้ว่าการโอเปกจากอิหร่าน ยังกล่าวหาว่า อเมริกาและซาอุฯ กำลังพยายามปั่นราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นและอาจสูงถึง 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งละเมิดต่อหลักการพื้นฐานของโอเปก