เอเจนซีส์ - ตำรวจมาเลเซียบุกค้นบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค และสามารถยึดทรัพย์สินประเภทอัญมณี กระเป๋าและนาฬิกา ที่มีมูลค่ารวมกันสูงถึง 273 ล้านดอลลาร์
อามาร์ สิงห์ ผู้บังคับการตำรวจ ได้ยืนยันว่ามีการบุกตรวจค้นบ้านพัก 6 แห่งที่เกี่ยวข้องกับนาจิบและภรรยา อันเป็นส่วนหนึ่งของการสืบคดีกองทุน 1MDB
ตำรวจระบุว่า ได้ยึดทรัพย์สินต่างๆ อาทิ สร้อยคอ 1,400 เส้น , กระเป๋าถือ 567 ใบ , นาฬิกา 423 เรือน , แหวน 2,200 วง , อัญมณีแบบเข็มกลัด 1,600 อัน , มงกุฎรัดเกล้า 14 อัน
การบุกค้นและยึดทรัพย์ครั้งนี้ ถือเป็นการยึดทรัพย์ล็อตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย ทรัพย์สินเหล่านี้ถูกประเมินว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 223 - 273 ล้านดอลลาร์
"อัญมณีรวมทั้งสิ้น 12,000 เม็ด ที่ถูกยึดมาได้นั้นมีมูลค่าราว 440 ล้านริงกิต โดยมีทั้งที่เป็นสร้อยคอ 1,400 เส้น แหวนอีก 2,200 วง , กำไล 2,100 อัน , ต่างหู 2,800 คู่ , เข็มกลัด 1,600 อัน , มงกุฎรัดเกล้า 14 อัน ทางตำรวจต้องใช้เวลาถึง 16 วันในการตรวจนับและตีมูลค่าทรัพย์สินเหล่านี้" ตำรวจระบุ
ทั้งนี้ อัญมณีชิ้นที่แพงสุดเป็นสร้อยคอทองฝังเพชรที่มีมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านดอลลาร์
ลำพังแค่กระเป๋าอย่างเดียวก็มีมูลค่าถึง 12.7 ล้านดอลลาร์ ขณะที่พวกนาฬิกานั้นมีมากมายหลายยี่ห้อ อาทิ โรเล็กซ์ , ริชาร์ด ไมล์ ฯลฯ รวมมูลค่า 19 ล้านดอลลาร์ ทั้งยังมีแว่นกันแดดแบรนด์เนม 274 อัน อาทิ คาร์เทียร์ , เวอร์ซาเช่ , ดิออร์ ฯลฯ
การบุกค้นบ้านนาจิบเป็นส่วนหนึ่งของการสืบคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุน 1MDB ที่มีเงินหายไปจากกองทุนรัฐบาลรายนี้นับพันล้าน โดยที่เงินจำนวน 681 ล้านดอลลาร์ถูกดึงออกจากกองทุนโยกไปเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของนาจิบ
นาจิบถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินกองทุนไปใช้จ่ายส่วนตัวสำหรับตนเองและภรรยา ซึ่งทางนาจิบได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ซึ่งในช่วงที่เขายังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น เขารอดพ้นจากการถูกเอาผิดไปได้
แต่พอสูญเสียอำนาจในเดือนพฤษภาคม รัฐบาลใหม่ของมาเลเซียที่นำโดย มหาเธร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีวัย 92 ปี ก็มีการรื้อฟื้นคดีกองทุน 1MDB อันแสนอื้อฉาวนี้กลับมาสืบสวนใหม่อีกรอบ