xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : ประท้วงหยุดรถบัสวิ่งออกจากศูนย์กักกันผู้อพยพรัฐเทกซัส – “ทำเนียบขาว” โว รู้หมดเด็กอยู่ไหน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/เอพี – เมื่อบ่ายวานนี้(23 มิ.ย) กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งขวางรถบัสที่กำลังออกจากศูนย์กักกันผู้อพยพในเมืองแม็คอลเลน( McAllen) รัฐเทกซัส ไว้ชั่วคราว พร้อมตะโกนคำขวัญปล่อยเด็กๆให้เป็นอิสระ พบมีผู้อพยพเด็กอยู่ด้านใน ทำเนียบขาวยืนยัน รู้ว่าลูกหลานผู้อพยพที่ถูกแยกตัวนั้นในเวลานี้อยู่ที่ไหน

KTLA5 สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(23 มิ.ย)ว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ทำการหยุดรถบัสคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าออกจากศูนย์กักกันผู้อพยพในเมืองแม็คคอลเลน( McAllen) รัฐเทกซัส เมื่อบ่ายวันเสาร์(23)

พบสมาชิกของกลุ่มได้หยุดอยู่บริเวณด้านหน้าตัวรถ พร้อมตะโกนคำขวัญปล่อยตัวเด็กๆให้เป็นอิสระ และ “เจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนสหรัฐฯช่างน่าละอาย” แต่ทว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมพรมแดนสหรัฐฯหยุดการเข้าปิดล้อมรถบัสจากกลุ่มผู้ประท้วงไว้ได้สำเร็จ และสามารถทำให้รถออกเดินทางต่อไปได้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว CNN ของสหรัฐฯรายงานว่า เมื่อมองผ่านกระจกรถที่มืดทึบพบมีเด็กๆนั่งอยู่ด้านใน สอดคล้องกับผู้ประท้วงรายหนึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นเด็กอยู่ด้านในรถด้วยเช่นกัน และพบว่ามีเด็กโบกมือให้ ซึ่งทำให้ผู้ประท้วงหญิงรายนี้กล่าวตะโกนไปเป็นภาษาสเปนว่า “พวกเธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง”

ซึ่งเดนีซ เบนาวีเดซ(Denise Benavides)ชาวดัลลัสกล่าวแสดงความเห็นว่า “มันมองเห็นได้ยากมาก” ซึ่งพบว่าเบนาวีเดซเป็นสมาชิกกลุ่มพลเมืองลีกแห่งยูไนเต็ดลาตินอเมริกา(the League of United Latin American Citizens)

เธอยังแสดงความเห็นว่า เธอไม่ทราบว่ารถที่กลุ่มพวกผู้ประท้วงได้ขวางไว้กำลังเดินทางไปที่ใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางกลุ่มผู้ประท้วงต้องการทราบว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาและคนเหล่านี้กำลังจะนำเด็กๆไปไว้ที่ใด

ซึ่งสื่อสหรัฐฯชี้ว่า จุดหมายปลายทางรถบัสคันดังกล่าวในเวลานี้ยังไม่แน่ชัด ในขณะที่ตำรวจแม็คคอลเลนชี้ว่า ไม่มีการจับกุมเกิดขึ้น

ในขณะที่โฆษกสำนักงานศุลกากรและควบคุมพรมแดนสหรัฐฯแถลงว่า รถบัสนำกลุ่มครอบครัวถูกเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่กักกันของสำนักงานศุลกากรและควบคุมพรมแดนสหรัฐฯ

ซึ่งทางทีมกฎหมายของผู้ปกครองกล่าวว่า ในหลายเคสพบว่า ผู้ปกครองไม่ทราบว่าในเวลานี้ลูกหลานตัวเองนั้นถูกส่งตัวไปกักไว้ในที่ใด ด้านสส.รัฐแคลิฟอร์เนีย แจ็กกี สเปียร์( Jackie Speier) และสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯคนอื่นๆได้เข้าเยี่ยมศูนย์แม็คคอลเลนในวันเสาร์(23) และได้เปิดเผยกับ CNN ของสหรัฐฯว่า เธอยังไม่เห็นถึงหลักฐานที่จะบ่งชี้ถึงกระบวนการทำให้ครอบครัวผู้อพยพได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง

“เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ทำงานแบบไร้นโยบาย” และกล่าวต่อว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ลงนามในคำสั่ง ซึ่งเท่ากับว่าเขาได้ล้างมือเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้”

และทางสเปียร์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่อยู่ภายใต้การดูแลของเขา นี่เป็นกระบวนการของเขา นี่เป็นนโยบายที่เขาออกมาบังคับใช้ ซึ่งหากว่าจะทำการยกเลิก ต้องทำให้เป็นการยกเลิกอย่างแท้จริงเพื่อทำให้แน่ใจว่า จะสามารถส่งเด็กแต่ละคนกลับคืนผู้ปกครองได้อย่างถูกต้อง”

เอพีรายงานล่าสุดวันนี้(24)ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯออกมาชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯรู้ว่า เด็กแต่ละคนตอนนี้อยู่ที่ใดหลังจากแยกตัวออกมาจากครอบครัวที่บริเวณพรมแดนแล้ว และในเวลานี้กำลังอยู่ในกระบวนการความพยายามที่จะทำให้ทั้งครอบครัวได้พบกันอีกครั้ง

ซึ่งส่วนหนึ่งของพยายาม เจ้าหน้าที่บังคับการเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯได้ติดป้ายแจ้งทุกจุดของที่ตั้งของทางสำนักงาน ประกาศให้คำแนะนำผู้อพยพซึ่งเป็นพ่อแม่ที่กำลังพยายามติดตามหา หรือติดต่อกับลูกของตัวเองที่ถูกกักตัวไว้ในที่แยกต่างหาก ให้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ไปยังศูนย์ฮอตไลน์ในช่วงเวลา 08.00 น – 20.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น

ทั้งนี้ผู้ปกครองหรือพ่อแม่คนใดที่คิดว่าลูกหลานของตัวเองอยู่ในสถานกักกันของกระทรวงสาธารณสุขและให้บริการมนุษย์สหรัฐฯ HHS ให้ติดต่อตรงไปยังศูนย์ฮอตไลน์ของสำนักงานการตั้งถิ่นฐานแห่งชาติสหรัฐฯ ไปที่ 1-800-203-7001 หรือทางอีเมล information@ORRNCC.com ซึ่งข้อมูลจะถูกรวบรวมและส่งต่อไปยังศูนย์ของ HHS ที่เด็กคนนั้นได้อาศัยอยู่

ทั้งนี้ในวันเสาร์(23) กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯแถลงว่า ภายใต้การดำเนินการทางกฎหมายของนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ต่อผู้อพยพ และการที่ครอบครัวจะกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง ระบุว่า *** ผู้ปกครองต้องร้องขอให้บุตรของตัวเองถูกเนรเทศไปพร้อมกัน*** ซึ่งในอดีตทางหน่วยงานกล่าวว่า มีหลายกรณีที่ทางผู้ปกครองเลือกที่จะถูกเนรเทศออกไปลำพังโดยที่ไม่มีเด็กๆเดินทางออกไปด้วย ซึ่งนั้นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรง หรือการดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ในประเทศบ้านเกิด

เอพีชี้ว่า ในเวลานี้ยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อใดที่ทางครอบครัวผู้อพยพจะสามารถกลับมาอยู่ร่วมกันได้อีกครั้ง ซึ่งในวันเสาร์(23) มีการจัดตั้งศูนย์ลงทะเบียนด่านอิซาเบลในรัฐเทกซัสเพื่อเตรียมความพร้อมให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันก่อนที่จะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ

ทั้งนี้มาจนถึงวันพุธ(20) พบว่ามีผู้เยาว์จำนวน 2,053 คนที่ถูกแยกตัวออกจากผู้ปกครองอยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์สหรัฐฯในเวลานี้ ในขณะที่ RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(24)ว่า กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯแถลงว่า มีเด็กจำนวน 522 คนที่ถูกแยกจากครอบครัวตามนโยบายเข้าเมืองรัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวแล้ว และกล่าวว่า คาดจะมีเด็กอีก 16 คนที่จะได้พบกับครอบครัวในวันถัดไป












กำลังโหลดความคิดเห็น