xs
xsm
sm
md
lg

“มหาเธร์” แย้มอาจขยายเวลา “ยกเว้นภาษี” ให้นักลงทุนต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซีย
รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซียเผยวานนี้ (19 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลอาจให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นกรณีพิเศษแก่นักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ๆ ที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง หากบริษัทเหล่านั้นสัญญาว่าจะสร้างงานที่มีรายได้ดีให้แก่ชาวมาเลเซีย

ถ้อยแถลงดังกล่าวของมหาเธร์ คาดว่าจะทำให้นักลงทุนใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง หลังจากที่ผู้นำวัย 92 ปี สั่งทบทวนและยกเลิกโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค เป็นผู้ริเริ่มไว้ โดยเฉพาะโครงการที่มีบริษัทจีนเข้าไปเกี่ยวข้อง

มหาเธร์ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลของเขายังยินดีต้อนรับนักลงทุน “ทั้งจากจีนและประเทศอื่นๆ” หากบริษัทเหล่านั้นรับรองว่าจะสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ให้แก่แรงงานทักษะสูงในมาเลเซีย เช่นในด้านเทคโนโลยี, การวิจัย และการพัฒนา เป็นต้น

“สมัยก่อนเราจำเป็นต้องสร้างงาน ดังนั้น เราจึงเปิดประตูต้อนรับบริษัทที่มีสายการผลิตใหญ่ๆ และต้องใช้แรงงานคน (manual labour) แต่เวลานี้เราต้องการแรงงานที่ใช้สติปัญญา (intellectual workers)” มหาเธร์ กล่าว

ผู้นำเสือเหลืองระบุด้วยว่า รัฐบาลอาจยกเว้นภาษีให้แก่บางบริษัทเกินกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดที่กฎหมายส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันได้กำหนดไว้

ในปัจจุบัน สำนักงานพัฒนาการลงทุนแห่งมาเลเซีย (Malaysian Investment Development Authority - MIDA) อนุญาตให้บริษัทที่เข้ามาลงทุนในแดนเสือเหลืองสามารถขอยกเว้นภาษีเงินได้ระหว่าง 5-10 ปี

“เราพร้อมที่จะยกเว้นภาษีให้ถึง 10 ปี หรืออาจนานยิ่งกว่านั้น” มหาเธร์ กล่าว “เรายินดีให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่พวกเขาเท่าที่จะให้ได้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างงานให้แก่ประชาชนของเรา”

มหาเธร์ ยังได้ยกตัวอย่างบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ อี-คอมเมิร์ซ จากแดนมังกร ซึ่งเข้าไปเปิดสำนักงานที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในสัปดาห์นี้ และหวังที่จะใช้มาเลเซียเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์

แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มอาลีบาบา ได้เข้าพบนายกฯ มหาเธร์ เมื่อวันจันทร์ (18) เพื่อหารือถึงโอกาสที่มาเลเซียจะเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าส่งออกไปยังจีน

“เขามีแนวคิดดีๆ ที่จะช่วยให้มาเลเซียสามารถผลิตสินค้าป้อนตลาดจีน” มหาเธร์ กล่าว

หลังจากชนะศึกเลือกตั้งเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน มหาเธร์ ได้สั่งยกเลิกโครงการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกัวลาลัมเปอร์กับสิงคโปร์ และให้หน่วยงานต่างๆ ทบทวนโครงการที่ นาจิบ เซ็นอนุมัติไว้ โดยเฉพาะข้อตกลงสร้างทางรถไฟร่วมกับจีนภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt, One Road ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 14,000 ล้านดอลลาร์

มหาเธร์ ชี้ว่า เหตุที่รัฐบาลต้องทบทวนโครงการต่างๆ ของจีนก็เนื่องจากคู่สัญญาในมาเลเซียไม่ได้รับส่วนแบ่งที่เป็นธรรม และไม่ช่วยสร้างตำแหน่งงานให้แก่ชาวมาเลเซียด้วย

มหาเธร์ เลือกที่จะเดินทางไปเยือน “ญี่ปุ่น” เป็นประเทศแรกหลังกลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในมาเลเซียมากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ การเยือนญี่ปุ่นของ มหาเธร์ ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการหวนกลับไปสู่นโยบาย “Look East” ซึ่งเน้นผูกสัมพันธ์กับประเทศในเอเชียตะวันออกโดยเฉพาะญี่ปุ่น และถอยห่างจากจีนซึ่งได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนในมาเลเซียหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงซื้อสินทรัพย์ที่ช่วยให้รัฐบาล นาจิบ ได้เงินมาชดเชยความเสียหายจากกองทุน วันมาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB)


กำลังโหลดความคิดเห็น