เอเจนซีส์ - ในการหารือร่วมกันเมื่อวานนี้(18 มิ.ย)ที่กรุงเบอร์ลิน อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันรับปากผู้นำอิตาลีคนใหม่ จูเซพเพ คอนเต( Giuseppe Conte ) ว่าจะช่วยเหลือสะกัดจำนวนผู้อพยพจากนอกยุโรปไหลเข้าสู่อิตาลี เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของแดนมักะโรนี ส่วนฟินแลนด์มึนหนัก พบตำรวจอิรักส่งตัวผู้ขอลี้ภัยที่ถูกเนรเทศกลับคืนประเทศบ้านเกิดกลับมายังกรุงเฮลซิงกิอีกรอบ อ้างเหตุผู้อพยพอิรักไม่เต็มใจและขาดเอกสารหนังสือเดินทางประจำตัว
DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(18 มิ.ย)ว่า ในการเยือนเยอรมันครั้งแรกของผู้นำอิตาลีคนใหม่ นายกรัฐมนตรี จูเซพเพ คอนเต( Giuseppe Conte ) เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กแห่งเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ในวันจันทร์(18) พบว่าทั้งสองหารือปัญหาการอพยพเข้าประเทศของอิตาลี ซึ่งก่อนหน้าอิตาลีประกาศไม่ยอมให้เรือกู้ภัยอาควอเรียสเข้าจอดเทียบท่าเพื่อนำผู้อพยพที่ได้รับการช่วยเหลือจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนขึ้นฝั่ง
อย่างไรก็ตาม แมร์เคิลที่ในเวลานี้กำลังตกที่นั่งลำบาก ถูกบีบจากกบฎภายในรัฐบาลพรรคผสมของตัวเองที่ต้องการให้แมร์เคิลให้เยอรมันมีจุดยืนในการแก้ปัญหาผู้อพยพอย่างแข็งกร้าว ได้ให้คำสัญญากับคอนเตว่า เธอต้องการที่จะทำงานร่วมมือกับรัฐบาลอิตาลีชุดใหม่เพื่อลดจำนวนของผู้อพยพเดินทางเข้าสู่สหภาพยุโรป
“เราต้องการสนับสนุนความปราถนาของอิตาลีเพื่อความเป็นหนึ่งเดียว และหวังว่าเยอรมันจะได้รับความเข้าใจในจุดยืนความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปต่อปัญหาผู้อพยพเช่นกัน” แมร์เคิลกล่าว
สื่อเยอรมันชี้ว่า ผู้นำทั้ง 2 ชาติเห็นร่วมกันในการที่ต้องทำให้การทำงานของหน่วยงานควบคุมพรมแดนยุโรปรอบนอก FRONTEX ให้ทำงานเข้มงวดมากขึ้น และทำงานร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาการอพยพในทวีแอฟริกาและในภูมิภาคตะวันออกกลาง อ้างอิงจากนายกรัฐมนตรีเยอรมัน
นอกจากนี้ในการหารือ พบว่าทั้งแมร์เคิลและคอนเตยังเห็นร่วมกันว่า การดำเนินการหนังสือยื่นขอลี้ภัยควรเริ่มต้นดำเนินยการที่ประเทศต้นทางหรือประเทศทรานซิตก่อนที่บรรดาผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะเดินทางเข้าสู่ยูโรโซน
ในขณะที่คอนเตได้กล่าวแสดงความเห็นว่า อิตาลีต้องการเปลี่ยนกฎเกณการอพยพเข้ายุโรป เพื่อต้องการทำให้มั่นใจว่าชาติสมาชิกยุโรปทั้งหลายจะแบกรับภาระผู้อพยพ ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบันจะพบว่า บรรดาผู้อพยพจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนในประเทศชาติสมาชิกอียูแรกที่เดินทางมาถึง
ซึ่งทางนายรัฐมนตรีอิตาลีย้ำว่า “พรมแดนอิตาลีคือพรมแดนสหภาพยุโรปเช่นกัน”
ทั้งนี้สำหรับตัวผู้นำหญิงเยอรมัน พบว่าในเวลานี้สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศอยู่ในช่วงน่าตกใจสำหรับเธอ เมื่อพบว่ารัฐมนตรีมหาดไทยสายเหยี่ยว ฮอร์สต์ ซีโฮเฟอร์(Horst Seehofer)ออกมากดดันแมร์เคิล โดยชี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ทางเยอรมันต้องเริ่มปฎิเสธการยอมรับผู้อพยพที่บริเวณแนวพรมแดนของตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตาม DW ชี้ว่า ผู้นำหญิงยืนกรานปฎิเสธ โดยชี้ว่าเยอรมันสมควรร่วมมือกับชาติสมาชิกอื่นในการหาทางออกร่วมกัน
ทั้งนี้ซีโฮเฟอร์และพรรคคริสเตียนโซเชียลยูเนียน CSU ของเขาเกิดความขัดแย้งกับแมร์เคิล ผู้นำพรรคคริสเตียนเดโมแครติกยูเนียน CDU ในนโยบายผู้อพยพ ซึ่งส่งผลทำให้ผู้นำหญิงเยอรมันต้องพยายามหาทางออกร่วมกับพันธมิตรอียูอื่นภายในต้นเดือนกรกฎาคมนี้
ซึ่งมีรายงานว่า แมร์เคิลมีแผนจะเปิดการเจรจาเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านเบอร์ลินเพื่อเปิดโอกาสให้ทางเบอร์ลินสามารถปฎิเสธไม่รับกลุ่มผู้อพยพที่ได้ลงทะเบียนในประเทศอื่นแล้ว ซึ่งพบว่าทั้งฝรั่งเศสและอิตาลีมีข้อตกลงที่คล้ายกันนี้
ในขณะที่ในวันนี้(19) สื่อฟินแลนด์ Yle รายงานว่า ตำรวจฟินแลนด์ได้ออกมายืนยันการรายงานที่ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจแบกแดดได้เข้าแทรกแซงการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอิรักกลับประเทศของฟินแลนด์ และส่งคืนบรรดากลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ที่ถูกรัฐบาลเฮลซิงกิปฎิเสธการให้ลี้ภัย กลับคืนมายังฟินแลนด์ในทันที
ซึ่งจากข้อมูลที่ทางYle ได้รับพบว่า ช่วงระหว่าง 3 สัปดาห์ล่าสุด กลุ่มผู้ถูกเนรเทศกลับประเทศชาวอิรักจากกรุงเฮลซิงกิถูกส่งตัวกลับคืนในทันที พร้อมคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอ้างว่า กลุ่มผู้ถูกเนรเทศกลับกรุงแบกแดดเหล่านี้ไม่มีหนังสือเดินทางติดตัว
แหล่งข่าว ยาสมิน ยูซุฟ(Yasmin Yusuf) นักเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ทำงานให้กับเครือข่าย “สิทธิในการอาศัย” (Right to Live) กล่าวว่า คนทั้งหมดถูกปฎิเสธในการได้สิทธิขอลี้ภัยในฟินแลนด์ แต่ไม่มีความประสงค์จะเดินทางกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของตัวเอง
อ้างอิงจากยูซุฟ พบว่าเจ้าหน้าที่ฟินแลนด์ใช้ความพยายามในการส่งคืนผู้ที่ถูกปฎิเสธไปยังกรุงแบกแดด อิรัก ใน 2 เที่ยวบินเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า แต่กลับพบว่ากระบวนการเนรเทศของเฮลซิงกิถูกตำรวจอิรักเข้าขัดขวางที่ท่าอากาศยานกรุงแบกแดด
“ตำรวจอิรักปฎิเสธที่จะยอมรับคนเหล่านั้น พวกเขาอ้างว่า เป็นเพราะคนเหล่านั้นไม่ได้เดินทางกลัยมาด้วยความเต็มใจและอีกทั้งยังไม่มีหนังสือเดินทาง” ยูซุฟอธิบาย
สื่อฟินแลนด์ชี้ว่า ตำรวจฟินแลนด์ยืนยันข้อมูลของยูซุฟ แต่ปฎิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม แอย่างไรก็ตาม ผู้ยื่นขอลี้ภัยในฟินแลนด์ที่ได้รัยคำสั่งเนรเทศ แต่ไม่ต้องการที่จะเดินทางกลับ จะถูกตำรวจฟินแลนด์ควบคุมตัวไปส่งถึงเครื่องบิน ซึ่งที่ผ่านมาเฮลซิงกิไม่ลังเลที่จะเนรเทศผู้ลี้ภัยกลับประเทศถึวแม้ว่าคนเหล่านั้นจะไม่มีหนังสือเดินทาง Yle ชี้ ซึ่งพบว่าในปี 2017 ทางตำรวจฟินแลนด์เริ่มออกเอกสารท่องเที่ยวชั่วคราวให้กับคนเหล่านี้เพื่อแก้ปัญหา
แต่ทว่าแหล่งข่าวนักเคลื่อนไหวชของ Yle ชี้ว่า กลุ่มที่ถูกตำรวจกรุงแบกแดดปฎิเสธนั้นถือเอกสารเดินทางชั่วคราวที่ทางฟินแลนด์ออกให้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยาสมิน ยูซุฟ ชี้ว่า ตำรวจอิรักไม่ต้องการรับตัวผู้อพยพเหล่านั้นกลับคืน
“เขากล่าวว่า พวกเขาจะไม่ยอมรับหากไม่มีพาสปอร์ต และไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนั้น” ยูซุฟกล่าว และชี้ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้
“คนเหล่านี้ถูกส่งตัวกลับ(มายังกรุงเฮลซิงกิ)ใน 2 เที่ยวบิน หรือในอีกทางหนึ่งคือ เป็นการส่งกลับคืนถึง 2 ครั้งภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งดิฉันได้ยินข่าวลือว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเดนมาร์กด้วยเช่นกัน”