รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ว่ารัฐบาลจะไม่คืนความยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้นให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตในสงครามยาเสพติด หลังองค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลมะนิลาจ่ายค่าชดเชยแก่ญาติของผู้ที่ถูกสังหารหลายพันศพ
สงครามกวาดล้างยาเสพติดของ ดูเตอร์เต ส่งผลให้มีผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดถูกตำรวจวิสามัญฯ ไปแล้วกว่า 4,200 คน และยังมีอีกหลายพันศพที่รัฐบาลอ้างว่าถูกพลเรือนลงโทษแบบศาลเตี้ย หรือไม่ก็ถูกสังหารโดยแก๊งอาชญากรคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม นักสิทธิมนุษยชนและนักวิจารณ์เชื่อว่าเหยื่อบางรายอาจถูกฆ่าแบบเหมารวม
ตำรวจฟิลิปปินส์อ้างว่าจำเป็นต้องวิสามัญฯ เพื่อป้องกันตนเอง เนื่องจากผู้ต้องสงสัยมีอาวุธและขัดขืนการจับกุม ทั้งยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของนักเคลื่อนไหวที่ว่ามีการแจ้งเบาะแสปลอม และจัดฉากอาชญากรรมเพื่อไล่ล่าผู้ค้าและผู้เสพรายย่อยๆ อย่างเป็นระบบ
“ถ้าพวกคุณคิดจะมาเรียกร้องความยุติธรรมเพียงเพราะสูญเสียคนในครอบครัวที่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่า ผมไม่อนุญาต” ดูเตอร์เต กล่าวในสุนทรพจน์เมื่อวันจันทร์ (18)
ผู้นำขาโหดวัย 73 ปี ยังประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมให้ทหารและตำรวจที่สังหารผู้ค้าหรือผู้เสพยาเสพติดต้องเข้าคุก
“ถ้าคุณถูกยิง และผมรู้ว่าคุณเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ผมนี่แหละจะวิ่งเหยียบคุณซ้ำอีก 5 รอบ” ดูเตอร์เต กล่าว
ดูเตอร์เต เริ่มประกาศสงครามกวาดล้างยาเสพติดทันทีที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2016 และยอมรับอย่างไม่ยี่หระว่าตนเองก็เคยฆ่าคนสมัยที่ยังเป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา
ดูเตอร์เต เคยพูดว่าเขา “มีความสุข” ที่จะสังหารคนติดยาให้ได้ถึง 3 ล้านคน และยังเปรียบเทียบแคมเปญของตนเองกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ดูเตอร์เต เคยสั่งห้ามตำรวจยุ่งเกี่ยวกับงานปราบปรามยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง หลังเกิดข้อครหาเรื่องการใช้กำลังเกิดกว่าเหตุ โดยเฉพาะกรณีที่วัยรุ่นคนหนึ่งถูกวิสามัญฯ ระหว่างปฏิบัติการไล่ล่าของตำรวจเมื่อปี 2017
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า คะแนนนิยมของ ดูเตอร์เต ไม่ได้ลดน้อยลงเลยในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ แม้นานาชาติจะรุมประณามสงครามยาเสพติดและประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของเขาก็ตาม