เอเจนซีส์ - รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศแผนเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบทุกประเทศ เพื่อนำรายได้มาใช้ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและลดความแออัดจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทางการแดนกีวีจะเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-35 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อคน (ประมาณ 560-790 บาท) โดยเริ่มในช่วงกลางปี 2019 ซึ่งถูกประกาศให้เป็น “ปีการท่องเที่ยวจีน-นิวซีแลนด์” (China-New Zealand Year of Tourism)
คาดว่าภาษีส่วนนี้จะช่วยให้รัฐบาลนิวซีแลนด์มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 57-80 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อปี เพื่อในการอนุรักษ์และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
“การที่นักท่องเที่ยวเสียสละเงินคนละเล็กคนละน้อยถือเป็นเรื่องที่แฟร์ และเราก็จะสามารถให้บริการสาธารณูปโภค และปกปักรักษาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่พวกเขาชื่นชมได้ดียิ่งขึ้น” เคลวิน เดวิส รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ระบุในถ้อยแถลงผ่านอีเมล
ออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านและมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้านิวซีแลนด์มากที่สุดจะได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าว รวมถึงกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก (Pacific Islands Forum) และเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ขณะที่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ รวมถึงจีน สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร อยู่ในข่ายที่จะต้องเสียภาษี
การเก็บภาษีจะกระทำขณะที่นักท่องเที่ยวยื่นขอวีซ่า หรือระหว่างขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (visa on arrival)
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาจะช่วยให้เศรษฐกิจนิวซีแลนด์เติบโตเป็นที่น่าพอใจ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิมไม่เพียงพอ และเริ่มมีเสียงร้องเรียนจากคนท้องถิ่นว่าเส้นทางธรรมชาติที่เคยเงียบสงบกลับเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเข้ามาทิ้งขยะเกลื่อนกลาด
ข้อมูลจากกระทรวงธุรกิจ นวัตกรรม และการจ้างงานแห่งนิวซีแลนด์ ระบุว่า นิวซีแลนด์ซึ่งมีประชากรเพียง 4.5 ล้านคนต้องรองรับนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมาสูงถึง 3.8 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากเมื่อปี 2015