xs
xsm
sm
md
lg

InClips: “ปธน.มาซิโดเนีย” ลั่น! ไม่ลงนามในข้อตกลงเปลี่ยนชื่อประเทศ เด็ดขาด! หลังตกลงข้อพิพาทนาน 27 ปีกับกรีซสำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี – ประธานาธิบดีมาซิโดเนีย ยอร์ช อิวานอฟ (Gjorge Ivanov) ประกาศเมื่อวานนี้(13 มิ.ย) ว่าเขาจะไม่ลงนามในข้อตกลงเปลี่ยนชื่อประเทศเด็ดขาด หลังจากทั้งมาซิโดเนียและกรีซประสบความสำเร็จบรรลุข้อพิพาทที่ขัดแย้งมานานร่วม 27 ปี และยังเป็นกำแพงขวางไม่ให้มาซิโดเนียสามารถเข้าร่วมกับนาโต ชื่อประเทศใหม่ของมาซิโดเนียคือ สาธารณรัฐมาซิโดเนียเหนือ( the Republic of North Macedonia)

เอพีรายงานวันนี้(14 มิ.ย)ว่า ประธานาธิบดีมาซิโดเนีย ยอร์ช อิวานอฟ (Gjorge Ivanov) อ้างเหตุผลในวันพุธ(13) ในการที่จะไม่ลงนามในข้อตกลงเปลี่ยนชื่อประเทศ เนื่องจากมีความเห็นว่าทางมาซิโดเนียอ่อนข้อให้กับกรีซมากจนเกินไป ซึ่งข้อตกลงนี้ทางมาซิโดเนียที่มีนายกรัฐมาตรี โซราน เซฟ (Zoran Zaev )บรรลุข้อตกลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส สำเร็จวันพุธ(13)

เอพีชี้ว่า ชื่อใหม่ของมาซิโดเนียที่จะถูกเปลี่ยนคือ “สาธารณรัฐมาซิโดเนียเหนือ” ( the Republic of North Macedonia)

ทางอิวานอฟวิจารณ์อย่างดุเดือดผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า “ช่างเป็นข้อตกลงที่เป็นอันตรายที่แปลกประหลาดที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่เคยมีมา เป็นความน่าละอายและเป็นสิ่งที่รับไม่ได้สำหรับตัวผม”

และกล่าวต่อว่า “มันขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ ผมจะไม่ยอมทำให้ข้อตกลงที่ผิดกฎหมายทำให้ถูกกฎหมายเด็ดขาด”

เอพีชี้ว่า ข้อตกลงเปลี่ยนชื่อประเทศนี้คาดว่าจะสามารถถูกลงนามรับรองร่วมจากรัฐมนตรีต่างประเทศของมาซิโดเนียและกรีซได้ภายในสุดสัปดาห์นี้ และหลังจากนั้นทางรัฐสภามาซิโดเนียมีกำหนดที่จะออกเสียงเพื่อรับรอง และหากผ่านการเห็นชอบทางรัฐสภา การลงนามของประธานาธิบดี อิวานอฟถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น

แต่หากว่าอิวานอฟปฎิเสธที่จะลงนาม เอพีกล่าวว่า ข้อตกลงเปลี่ยนชื่อประเทศจะกลับเข้าสู่สภาอีกครั้งสำหรับการออกเสียงลงคะแนนรอบใหม่ แต่ประธานาธิบดีอิวานอฟจำเป็นต้องลงนามรับรองหากว่าข้อตกลงผ่านรัฐสภารอบ 2

การโต้เถียงชื่อประเทศมานานร่วม 27 ปีเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ทางมาซิโดเนียสามารถเข้าร่วมกับองค์การนาโต นั้นสามารถเรียกเสียงบรรดาพวกชาตินิยมได้ และยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างมาซิโดเนียและกรีซ นับตั้งแต่ประเทศคาบสมุทรบอลข่านแห่งนี้แยกตัวออกจากยูโกสลาเวียเมื่อปี 1991

ซึ่งทางกรีซอ้างว่า “มาซิโดเนีย” (Macedonia) นั้นมีความหมายในเชิงบ่งชี้ถึงการอ้างในดินแดนและอารยธรรมเก่าแก่ของจังหวัดทางเหนือของตัวเองที่มีชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นที่ประสูติของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งอาณาจักรกรีกโบราณ

ด้านประธานสภายุโรป โดนัลด์ ทัสค์ และเลขาธิการใหญ่องค์การนาโต เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก(Jens Stoltenberg) ออกแถลงการณ์ในวันพุธ(13) กล่าวแสดงความยินดีที่สามารถบรรลุข้อพิพาทครั้งประวัติศาสตร์ แต่ยังรับรู้ว่ายังคงมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายใน

“เราหวังว่าโอกาสที่พิเศษและหาได้ยากนี้จะขยายภูมิภาคบอลข่านตะวันตกของยุโรปให้ไกลออกไป และการรวมตัวของแอตแลนติก-ยูโรจะไม่สูญเปล่า” รายงานจากแถลงการณ์ และยังกล่าวต่อว่า “ข้อตกลงนี้ถือเป็นตัวอย่างต่อคนอื่นๆในการทำให้สันติภาพและความมั่นคงมีความเป็นปีกแผ่นทั่วทั้งภูมิภาค”

อย่างไรก็ตาม การบรรลุข้อตกลงของเซฟและซีปราสสร้างความไม่เห็นชอบให้กับทั้งฝั่งมาซิโดเนียและกรีซ มีการจัดการประท้วงครั้งใหญ่และยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลผสมของซีปราส รวมไปถึงทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตัวนายกรัฐมนตรีมาซิโดเนียและประธานาธิบดีมาซิโดเนีย

ทั้งนี้พบว่าในช่วงค่ำวันพุธ(13) มีประชาชนราว 1,500 คนรวมตัวประท้วงอย่างสงบบริเวณด้านหน้ารัฐสภามาซิโดเนีย กรุงสโกเปีย ตะโกนคำว่า “พวกขายชาติ” พร้อมเป่านกหวีดเสียงดังลั่น

ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกรีซมีแผนรวมตัวประท้วงข้อตกลงวันศุกร์(15) โดยบรรดาสายฮาร์ดไลน์ของทั้ง 2 ประเทศต่างชี้ว่า นายกรัฐมนตรีของแต่ละฝ่ายยอมมากจนเกินไปเพื่อที่จะทำให้ข้อตกลงสามารถบรรลุ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเซฟของมาซิโดเนียประกาศว่า เขาจะนำข้อตกลงการเปลี่ยนชื่อประเทศให้ประชาชนลงมติประชามติในช่วงหน้าฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึง

ซึ่งในวันพุธ(13) เซฟเดินทางพร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศมาซิโดเนีย นิโคลา ดมิตรอฟ(Nikola Dimitrov)เข้าพบกับอิวานอฟเพื่อรายงานสรุปถึงข้อตกลง แต่ทว่าทางประธานาธิบดีมาซิโดเนียปฎิเสธที่จะหารือในประเด็นนี้

โดยในแถลงการณ์รัฐบาลกล่าวว่า “ประธานาธิบดี อิวานอฟ...เดินออกจากที่ประชุม ปฎิเสธที่จะหารือถึงความสำเร็จของข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์”








กำลังโหลดความคิดเห็น