xs
xsm
sm
md
lg

อื้ออึง!! สหรัฐฯเล็งใช้ “กล้องตรวจจับใบหน้าคมชัดสูง” ส่องคนในรถผ่านเข้าออกพรมแดนติดเม็กซิโก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – รัฐบาลกลางสหรัฐฯเตรียมใช้กล้องที่มีระบบเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าบริเวณพรมแดนทางใต้ติดเม็กซิโก ตรวจจับคนภายในรถผ่านเข้าออกประเทศ มีกำหนดจะเริ่มต้นใช้สิงหาคมที่จะถึง

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(5 มิ.ย)ว่า โครงการนำร่องใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้ามนุษย์ มีกำหนดที่จะเริ่มต้นใช้บริเวณพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯติดเม็กซิโกในเดือนสิงหาคมที่จะถึง

ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มต้นใช้ที่รัฐแอริโซนาและรัฐเทกซัส ที่จะเป็นการสร้างการทดสอบของเจ้าหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลขนาดมหาศาล รวมไปถึงภาพของผู้คนหลังจากเลิกจากงาน รับบุตรที่โรงเรียน และการทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อ้างอิงจากบันทึกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

โปรเจกต์นำร่องเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าบริเวณพรมแดนใต้ที่ว่านี้ เดอะการ์เดียนได้รับการยืนยันจากสำนักงานศุลกากรสหรัฐฯและการปกป้องพรมแดน CBP ในวันอังคาร(5) ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วจากกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนต่างๆ ด้วยเกรงกันว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ จากการที่ทางการสหรัฐฯใช้การสอดแนมแบบหว่านแหเป็นวงกว้างด้วยการพึงพาจากความสามารถของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ยังคงเป็นคำถามในเวลานี้

อ้างอิงจากการรายงานครั้งแรกของสื่อเวิร์จ(Verge) พบว่าระบบเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าในยานพาหนะ(Vehicle Face System) จะถูกนำมาทดลองใช้เป็นระยะเวลา 1 ปีที่บริเวณด่านข้ามพรมแดนอันซัลดวซ(Anzalduas)ขาเข้าสู่รัฐเทกซัส ***ตรวจจับรถทุกคันที่เดินทางผ่านเข้าและออกเม็กซิโก*** ในจุดประสงค์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของคนภายในรถดูว่าภาพที่ปรากฏนั้นมีความคมชัดเพียงใด สำนักงาน CBP แถลง

สื่ออังกฤษชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะทำการเปรียบเทียบภาพใหม่ที่ถูกบันทึกไว้ได้กับภาพบนฐานข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึง หนังสือเดินทาง วีซ่า และเอกสารของสำนักงานศุลกากรสหรัฐฯและการปกป้องพรมแดน CBP โฆษกหญิง เจนนิเฟอร์ กาบริซ( Jennifer Gabris)แถลง

ซึ่งถึงแม้ที่ผ่านมาทางสหรัฐฯจะมีมาตรการเข้มข้นในการขยายช่องทางการจับตาและเป้าหมายไปยังผู้คนที่ผ่านเข้าและออกพรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯและบริเวณโดยรอบ และเป็นที่น่ากังวลมากขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ CBP และเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารความปลอดภัยทางคมนาคมสหรัฐฯ TSA ทำการตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอริกของผู้โดยสาร แต่ทว่านี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทางสำนักงาน CBP ใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเพื่อบันทึกใบหน้าผู้คนที่นั่งอยู่ด้านในรถบริเวณพรมแดน มิตรา อีบาโดลาฮี(Mitra Ebadolahi) ทีมทนายความโปรเจกต์คดีพรมแดนประจำหน่วยงานสหภาพเสรีภาพพลเมืองชาวอเมริกัน(ACLU)กล่าว

ในรายงานของสื่อเวิร์จ ที่ได้รับบันทึกรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พบว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวว่า ระบบกล้องสามารถจับภาพรถได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 คันตลอด 3 วันของการทดสอบ อย่างไรก็ตามโฆษก CBP ยืนยันว่า ทางแล็บได้ทำการลบทิ้งภาพถ่ายเหล่านี้หลังจากเสร็จสิ้นการวิเคราะห์

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทโอ๊ก ริดจ์ เนชันแนล ลาบอราทอรีส์( Oak Ridge National Laboratories) ซึ่งมีรัฐบาลสหรัฐฯให้การสนับสนุนได้รับอนุญาตให้สามารถทำการทดสอบกล้องระบบใหม่ ซึ่งกล้องที่ว่ามีความสามารถในการจับภาพใบหน้าของนักขับด้วยความคมชัดสูง และรวมไปถึงคนอื่นๆที่อยู่ภายในรถในระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนที่

อย่างไรก็ตามข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้า สื่ออังกฤษชี้ว่า อาจเป็นที่มาการกีดกันทางสีผิวได้ เป็นเพราะ มีหลักฐานปรากฏว่าเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า มีความผิดพลาดในการตรวจจับกลุ่มคนผิวสี ผู้หญิง และคนอายุน้อย “ในอัตราที่สูงมากกว่า” ชายอายุมากผิวขาว ซึ่งมีการโต้เถียงถึงการใช้เทคโนโลยีที่ว่าต่อผู้อพยพเข้าเมืองที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ไม่ใช่ผิวขาวว่าไม่เป็นธรรม



กำลังโหลดความคิดเห็น