เอเจนซีส์ – กัวเตมาลาเผยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุภูเขาไฟระเบิดเพิ่มเป็นอย่างน้อย 69 ราย แต่สามารถระบุตัวตนได้ไม่ถึง 1 ใน 3 ขณะที่หลายครอบครัวยังคงพยายามค้นหาสมาชิกที่หายไปแม้ไร้ความหวัง ขณะเดียวกันภูเขาไฟที่ยังปะทุแม้เบาลง รวมทั้งแนวโน้มที่จะมีฝนตกต่อเนื่องนานหลายวัน เป็นอุปสรรคสำคัญต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย
สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติกัวเตมาลา (คอนเรด) ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตในวันจันทร์ (4 มิ.ย.) เป็นอย่างน้อย 69 ราย จากเดิม 25 ราย ที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (3 มิ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บกู้ศพจำนวนมากจากรอบหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเอล โรดิโอ
ฟานูเอล การ์เซีย ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติแถลงว่า มีเพียง 17 ศพเท่านั้นที่สามารถระบุตัวตนได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 46 ราย ส่วนใหญ่อาการสาหัส และมีประชาชน 1.7 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบ
ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปตามหาสมาชิกในครอบครัวที่จุดเก็บศพชั่วคราวในเมืองเอสกินต์ลา ห่างจากจุดที่ภูเขาไฟระเบิดราว 30 กิโลเมตร ด้านประธานาธิบดี จิมมี มอราเลส ที่ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศนาน 3 วัน ได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดภัยพิบัติในวันจันทร์
การระเบิดของภูเขาไฟฟูเอโกที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันอาทิตย์ ถือเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษ ทำให้ท่าอากาศยานนานาชาติหลักของกัวเตมาลาต้องปิดให้บริการ และในเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกัน ภูเขาไฟลูกนี้ก็ระเบิดซ้ำและแรงกว่าเดิม
ภารกิจเก็บกู้ศพในวันจันทร์เผชิญอุปสรรคจากการปะทุรอบใหม่และดินถล่มบริเวณเชิงเขาทางทิศใต้ของภูเขาไฟฟูเอโก ทำให้ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนอีกครั้ง และเมื่อถึงช่วงบ่ายก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักกระทั่งหน่วยกู้ภัยต้องยกเลิกภารกิจค้นหาในเมืองเอล โรดิโอจนถึงเช้าวันอังคาร (5 มิ.ย.) เนื่องจากระบบไฟฟ้าของเมืองนี้และที่ลอสโลเตส ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด ยังไม่ได้รับการแก้ไข
อย่างไรก็ตาม เอ็ดดี้ ซานเชส ผู้อำนวยการสถาบันแผ่นดินไหว ภูเขาไฟ และอุตุนิยมวิทยาของกัวเตมาลา ระบุว่า ช่วงเย็นวันจันทร์ ภูเขาไฟเริ่มปะทุเบาลงและคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายวัน เช่นเดียวกับที่จะมีฝนตกต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาอีกหลายวัน
สิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงต้นไม้บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูเอโก กลายเป็นสีน้ำตาลและเทา ทหารติดอาวุธสวมหน้ากากสีน้ำเงินคอยเฝ้าบริเวณที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักและถูกปิดกั้นไว้
ฟูเอโกเป็นหนึ่งในภูเขาไฟหลายลูกที่ยังมีพลัง จากภูเขาไฟทั้งหมด 34 ลูกในกัวเตมาลา การระเบิดเมื่อวันอาทิตย์พ่นเถ้าถ่านและควันดำสูงถึง 10 กิโลเมตร และยังปล่อยลาวาไหลปกคลุมหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนกว่า 3,200 คนต้องอพยพ โดยทาง เดวิด เดอ ลีออน โฆษกสำนักงานภัยพิบัติฯ ระบุว่า ลาวาไหลเร็วมากและไปถึงชุมชนต่างๆ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ทางการประกาศให้ประชาชนอพยพ
ลาวาเหล่านี้ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 700 องศาเซลเซียส รวมถึงเถ้าและก๊าซจากภูเขาไฟทำให้ตะกอนภูเขาไฟยิ่งไหลเร็วขึ้นและเข้าท่วมบ้านเรือนและถนน ทำให้คนมากมายเสียชีวิตเนื่องจากหนีไม่ทัน สอดคล้องกับ เดวิด โรเทอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟจากมหาวิทยาลัยโอเพนของอังกฤษ ที่ขานรับว่า ตะกอนภูเขาไฟอาจเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความร้อนสูงมาก
สำนักงานภัยพิบัติฯ ได้เผยแพร่ภาพก๊าซและโคลนที่ไหลท่วมบริเวณไหล่เขา หุบเขา และหมู่บ้าน รวมทั้งเปิดให้ลงทะเบียนผู้สูญหายทางออนไลน์ ส่วนทางด้าน กุสตาโว ชิกนา ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟของรัฐบาลกัวเตมาลา กล่าวว่า ภูมิทัศน์ของภูเขาไฟเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งถูกทำลาย
แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของชาวกัวเตมาลาจำนวนมาก รวมทั้งความเสียหายใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า ยูเอ็นพร้อมให้ความช่วยเหลือความพยายามในการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ของกัวเตมาลา