เอพี – ทีมอัยการร้องเรียนผู้พิพากษาให้ฝากขัง พอล มานาฟอร์ต อดีตประธานแคมเปญหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างรอการพิจารณาคดี เนื่องจากพยายามยุ่งเหยิงพยานในคดีอาญาที่ตนเองเป็นจำเลยหลายครั้ง
ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลในวันจันทร์ (4 มิ.ย.) ทีมอัยการที่ทำงานให้ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ระบุว่า ช่วงต้นปีนี้ หรือไม่นานหลังจากที่คณะลูกขุนใหญ่เพิ่มข้อกล่าวหามานาฟอร์ต และขณะที่เจ้าตัวถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้านพัก มานาฟอร์ตและผู้ช่วยคนหนึ่งกลับติดต่อพยาน 2 คน “หลายครั้ง” เพื่อพยายามโน้มน้าวการให้การของพยานทั้งคู่
คำร้องนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ทีมของมุลเลอร์กล่าวหามานาฟอร์ตละเมิดคำสั่งผู้พิพากษา โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมอัยการพบว่า มานาฟอร์ตพยายามอาศัยชื่อคนอื่นเขียนบทความแสดงความคิดเห็นในยูเครนทั้งที่ได้รับคำสั่งจากศาลห้ามแพร่งพรายข้อมูล
การกล่าวหาว่า มานาฟอร์ตพยายามยุ่งเหยิงพยานครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคดีอาญาในวอชิงตัน ซึ่งตัวเขาถูกกล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน ให้ข้อมูลเท็จ และดำเนินการเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของยูเครนโดยไม่ได้ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เขายังถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงธนาคารและเลี่ยงภาษีในรัฐเวอร์จิเนีย
อย่างไรก็ตาม ข้อหาเหล่านั้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ที่ยักย้ายถ่ายเทผ่านบัญชีนอกอเมริกานั้น ไม่เกี่ยวข้องกับงานของมานาฟอร์ตในทีมหาเสียงของทรัมป์ หรือข้อกล่าวหารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
ในเอกสารล่าสุดที่ยื่นต่อศาล ทีมอัยการระบุว่า แม้ถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้าน แต่มานาฟอร์ตและผู้ช่วยยังพยายามโน้มน้าวให้พยานโกหกเกี่ยวกับรูปแบบการล็อบบี้และงานประชาสัมพันธ์ที่พยานทั้งคู่ทำตามคำสั่งของมานาฟอร์ต ซึ่งดำเนินการในนามของยูเครน
คำร้องไม่ได้ระบุชื่อผู้ช่วยของมานาฟอร์ต แต่อ้างอิงแทนว่า “Person A” พร้อมหมายเหตุว่า นามแฝงนี้สอดคล้องกับคำร้องก่อนหน้านี้ในคดีเดียวกันซึ่งระบุว่า “Person A” ก็คือ คอนสแตนติน คิลิมนิก ผู้ช่วยที่ทำงานให้มานาฟอร์ตมานานและทีมอัยการระบุว่า มีสายสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย
คิลิมนิกที่ปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยข่าวกรองแดนหมีขาว ยังมีส่วนร่วมในการใช้ชื่อผู้อื่นเขียนบทความแสดงความคิดเห็นตามที่ระบุข้างต้น
ส่วนพยานสองคนที่แม้ไม่ได้ระบุชื่อในคำร้องล่าสุด แต่ทีมอัยการเผยว่า เป็นบุคคลสำคัญในบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ทำงานกับมานาฟอร์ตในการจัดตั้งกลุ่มอดีตเจ้าหน้าที่ยุโรปที่ชื่อว่า กลุ่มแฮปส์เบิร์ก ซึ่งสนับสนุนผลประโยชน์ของยูเครนในยุโรปและอเมริกา และงานของกลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคดีในข้อกล่าวหามานาฟอร์ตเกี่ยวกับการลักลอบเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของยูเครนในสหรัฐฯ
ตามคำร้องของทีมอัยการ มานาฟอร์ตเริ่มส่งข้อความและโทรหาพยาน 1 ใน 2 คนนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หรือไม่นานหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อกล่าวหา ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮปส์เบิร์ก และในเวลาเดียวกันนั้น ริก เกตส์ ผู้ช่วยธุรกิจและจำเลยร่วมของมานาฟอร์ต ได้ยอมรับผิดและตกลงให้ความร่วมมือกับทีมอัยการ
มานาฟอร์ตพยายามติดต่อพยานคนดังกล่าวหลายครั้งและครั้งหนึ่งเขาบอกว่า อยากเตือนเรื่องแฮปส์เบิร์ก ทำให้พยานผู้นั้นวางสายทันทีเนื่องจากกังวลว่า อาจเกินขอบเขตที่เหมาะสม และจากคำให้การ พยานผู้นั้นเชื่อว่า การกระทำทั้งหมดของมานาฟอร์ตมีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวคำให้การของตนเอง เขายังบอกว่า ทั้งเขาและมานาฟอร์ตต่างรู้ว่า แฮปส์เบิร์กเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ที่วิ่งเต้นดำเนินการในสหรัฐฯ
เอกสารคำร้องระบุว่า Person A พยายามหลายครั้งเพื่อโน้มน้าวการให้การของพยานในเดือนกุมภาพันธ์และเมษายน พยานทั้งคู่ยังบอกทีมอัยการว่า มานาฟอร์ตและ Person A พยายามให้พวกตนไปแจ้งกับกลุ่มแฮปส์เบิร์กว่า ถ้ามีคนติดต่อมา ให้บอกแค่ว่า ทำงานล็อบบี้และประชาสัมพันธ์ในยุโรปเท่านั้น