xs
xsm
sm
md
lg

InClip:สุดหนาว! ผู้นำสูงสุดอิหร่าน “คาเมนี” สั่งเพิ่มการผลิต “ยูเรเนียมเข้มข้น” เริ่มต้นหมุนสายพานวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากเอเอฟพี อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี  ผู้นำสูงสุดอิหร่านเมื่อวันจันทร์(4)
เอเจนซีส์- อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี  ผู้นำสูงสุดอิหร่านออกคำสั่งให้เริ่มกระบวนการเพิ่มการผลิตยูเรเนียมเข้มข้น เชื้อเพลิงผลิตนิวเคลียร์ อ้างเป็นไปตามกรอบข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ส่งแรงบีบชาติยุโรปหลังสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลง

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(5 มิ.ย)ว่า สำนักข่าวอิหร่านรายงาน ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี  ล่าสุดมีคำสั่งให้องค์การพลังงานปรมาณูเพื่ออิหร่าน  AEOI (The Atomic Energy Organization of Iran)เริ่มต้นกระบวนการเพิ่มการผลิตยูเรเนียมเข้มข้น โดยในรายงานระบุว่า

“องค์การพลังงานปรมาณูเพื่ออิหร่าน มีหน้าที่ต้องเตรียมสำหรับการเข้มข้นของผลิตยูเรเนียมจำนวน 190,000 หน่วยSWU”

ซึ่งเขาชี้ว่า การเพิ่มจำนวนยูเรเนียมเข้มข้น ที่สามารถถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์และอาวุธนั้น เป็นไปตามข้อกำหนดของข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 ที่รู้จักในชื่อย่อ JCPOA

และในรายงานของสื่ออิหร่านยังกล่าวถึงการแถลงของ เบห์เราซ์ คามัลวานดี (Behrouz Kamalvandi) โฆษกองค์การAEOI ที่ได้ระบุเรื่องนี้ในวันจันทร์(4)ว่า ***ทางเตหะรานจะแจ้งเรื่องนี้ให้ทางทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ  IAEA ขององค์การสหประชาชาติให้ทราบว่า การเดินหน้าการผลิตจะเริ่มต้นในวันอังคาร(5)***

“ท่านผู้นำ(คาเมนี)หมายความว่า พวกเราควรเร่งกระบวนการบางอย่าง...ที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพในการทำงานด้านนิวเคลียร์ของเรา ในการเดินไปข้างหน้าให้เร็วขึ้นในกรณีจำเป็น” คามัลวานดีแถลงชี้แจง

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า เชื่อว่าคำสั่งที่ออกมาจากคาเมีจะสร้างแรงบีบให้กับบรรดาชาติตะวันตกที่ต้องการรักษาข้อตกลงนี้ไว้

นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 9 พ.คที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯจะถอนตัวออกมาจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และพร้อมที่จะเริ่มต้นใช้กระบวนการคว่ำบาตรกับเตหะรานอีกครั้ง คาเมนีและเจ้าหน้าที่อิหร่านต่างออกมาโจมตี และข่มขู่ที่จะเพิ่มการผลิตยูเรเนียมเข้มข้นอีกครั้ง

ซึ่งที่ผ่านมา บรรดาชาติยุโรปและจีนที่ร่วมในข้อตกลงยังคงยืนกรานที่จะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านไว้ แต่ทว่าความกลัวกลับทวีมากขึ้นภายในกรุงเตหะรานที่เกรงว่า บรรดาผู้นำชาติยุโรปทั้งหลายจะไม่สามารถห้ามสหรัฐฯไม่ให้ลงโทษต่อบรรดาบริษัทชาติยุโรป ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อระบบเศรษฐกิจน้ำมันของอิหร่าน

ผู้นำอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนีแถลงในวันจันทร์(4) อ้างอิงการรายงานจากสำนักข่าวอิหร่าน ประกาศว่า “ชาติอิหร่านจะไม่ยอมอดทนต้องอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรและข้อจำกัดทางนิวเคลียร์ในเวลาเดียวกัน”

และเสริมต่อว่า “มีคำพูดที่ถูกกล่าวออกมาจากบางชาติยุโรปที่ชี้ว่า พวกเขาต่างคาดหวังว่า ชาติอิหร่านจะปฎิบัติตามเป็นไปตามเงื่อนไขของข้อตกลงนิวเคลียร์ และสามารถดำรงอยู่ได้ภายใต้สภาวะการถูกคว่ำบาตร”

CNNรายงานว่า ในเดือนที่ผ่านมาพบว่าผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ออกเงื่อนไขข้อเรียกร้องให้กับผู้นำชาติยุโรป ที่ทางคาเมนีแสดงความสงสัยว่า ผู้นำชาติเหล่านี้จะยังคงยึดถือข้อตกลงอยู่หรือไม่

โดยทางคาเมนียืนยันว่า หนทางเดียวที่ข้อตกลงนี้จะสามารถคงสภาวะอยู่ต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อบรรดาชาติยุโรปทั้งหลายสามารถปฎิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 6 ประการ ซึ่งรวมไปถึง การไม่ตั้งคำถามต่อโครงการอาวุธมิสไซล์พิสัยโค้งของอิหร่าน หรือความเคลื่อนไหวของอิหร่านระดับภูมิภาค

และคาเมนียังต้องการให้มีการให้หลักประกันต่อการที่เตหะรานจะยังคงสามารถขายน้ำมันออกไปได้ ได้รับการชดเชยต่อการสูญเสีย และยุโรปรับซื้อน้ำมันที่ยังเหลืออยู่ในสต็อกทั้งหมด

นอกจากนี้ทางอิหร่านยังต้องการได้รับหลักประกันว่า ระบบการธนาคารของอิหร่านจะยังคงสามารถเข้าถึงระบบการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ( SWIFT) ได้ต่อไป

สื่อสหรัฐฯชี้ว่า ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ประสบความสำเร็จในสมัยประธานาธิบดีโอบามา ได้มีการจำกัดศักยภาพในการเพิ่มจำนวนความเข้มข้นของยูเรเนียม หรือ การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม  เพื่อให้ทางเตหะรานไม่สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้

และในทางกลับกัน อิหร่านจะได้รับประโยชน์จากการถูกผ่อนคลายจากการลงโทษคว่ำบาตร ที่ส่วนใหญ่ได้ถูกพักไว้ในเดือนมกราคมปี 2016

ในขณะเดียวกัน ผู้นำอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้เริ่มต้นการเยือนยุโรปเป็นเวลา 3 วันในวันจันทร์(4) เพื่อหวังที่จะหว่านล้อม 3 ผู้นำชาติยุโรปจากเยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ให้ยอมยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเสีย ซึ่งในการหารือถึงภัยคุกคามกับนายกรัฐมนตรีเยอรมันในกรุงเบอร์ลิน ที่ทางเนทันยาฮูชี้ว่า เตหะรานแสดงความเป็นภัยคุกคามต่อทั้งอิสราเอลและต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง

ในการแถลงข่าวร่วมหลังการหารือ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ยอมรับร่วมกับเนทันยาฮูว่า อิทธิพลอิหร่านที่มีต่อภูมิภาคแสดงถึงภัยคุกคามต่ออิสราเอล แต่อย่างไรก็ตามเธอยืนยันว่า “ยุโรปมีความตั้งใจที่จะยังคงอยู่ในข้อตกลงนี้”












กำลังโหลดความคิดเห็น