เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมจัดทำแผนอุดหนุนโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและนิวเคลียร์ โดยยกเรื่องความมั่นคงของชาติมาเป็นข้ออ้าง ขณะที่กลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยวิจารณ์ว่ามาตรการเช่นนี้ไม่มีความจำเป็น และจะยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น
แผนการล่าสุดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นเพียงไม่กี่เดือน หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของสหรัฐฯ (Federal Energy Regulatory Commission - FERC) ออกมาปฏิเสธข้อเสนอให้รัฐบาลกลางอุ้มอุตสาหกรรมถ่านหินซึ่งกำลังประสบปัญหาเพื่อเสริมความแข็งแรงยืดหยุ่น (resilience) ให้แก่ระบบไฟฟ้าแห่งชาติ
องค์กรกำกับดูแลด้านพลังงานของสหรัฐฯ มองว่าข้อเสนอเหล่านี้ไม่มีเหตุผลอันสมควร
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวได้แถลงวานนี้ (1 มิ.ย.) ว่ารัฐบาลกำลังตระเตรียมแผนใหม่
“การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้แข็งแรงปลอดภัยถือเป็นการช่วยปกป้องความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ และเศรษฐกิจจากการถูกต่างชาติโจมตี หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ” ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ระบุ
“น่าเสียดายที่แผนการปลดระวางโรงไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยกำลังจะนำไปสู่การสูญเสียองค์ประกอบสำคัญของระบบพลังงานแบบผสมผสาน ซึ่งจะกระทบต่อความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้าแห่งชาติ”
แซนเดอร์ส ระบุว่า ทรัมป์ ได้มอบหมายให้ ริค เพอร์รี เลขานุการฝ่ายพลังงาน ไปคิดหา “มาตรการเฉพาะหน้าเพื่อยับยั้งการสูญเสียทรัพยากรเหล่านี้”
ทำเนียบขาวไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม แต่มีรายงานจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลว่า แผนของ ทรัมป์ อาจรวมถึงการบังคับให้องค์กรดูแลระบบส่งไฟฟ้า (grid operators) ต้องรับเอาไฟฟ้าจากโรงงานถ่านหินและนิวเคลียร์มาจ่ายให้ประชาชนใช้ด้วย
PJM ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดูแลระบบจ่ายไฟในสหรัฐฯ วิจารณ์รัฐบาลว่า “ไม่จำเป็นต้องทำรุนแรงถึงขั้นนั้น”
"การที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงและสั่งให้ลูกค้าต้องซื้อไฟจากโรงไฟฟ้าที่เฉพาะเจาะจงอาจเป็นอันตรายต่อตลาด และทำให้ผู้บริโภคต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น"
คริสโตเฟอร์ มันซูร์ จากสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy Industries Assosiation) กล่าวเพิ่มเติมว่า การทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์เพื่ออุ้มโรงไฟฟ้าที่ไม่ทำกำไร แต่กลับทอดทิ้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ทั้งสะอาดและราคาไม่แพง “ไม่ใช่สูตรสำหรับความสำเร็จทางเศรษฐกิจ”
ถ่านหินและพลังงานนิวเคลียร์มีส่วนแบ่งตลาดพลังงานลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนหันไปใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และพลังงานทดแทนอื่นๆ มากขึ้น
ขณะนี้มีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพียง 2 ตัวที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในสหรัฐฯ ไม่นับรวมอีก 99 เครื่องที่เปิดใช้งานอยู่ ขณะที่ถ่านหินก็เผชิญวิกฤตพอๆ กัน ซึ่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่ ทรัมป์ ได้สัญญาเอาไว้เมื่อตอนหาเสียง